Guestpost Backlinks vs. Backlink จาก Fiverr: เลือกแบบไหนให้เว็บไซต์ปัง?

การสร้าง Backlink เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับ SEO และหลายคนก็สงสัยว่าระหว่าง Guestpost Backlinks กับการซื้อ Backlink จาก Fiverr แบบไหนจะดีกว่ากัน บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจและเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ เพื่อให้คุณเลือกแนวทางที่เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณที่สุดครับ

• Guestpost Backlinks คือการที่เราไปโพสต์บทความพร้อมใส่ลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของเราบนเว็บอื่นที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้อง ส่วน Backlink จาก Fiverr คือการที่เราจ้างคนอื่นบนแพลตฟอร์ม Fiverr ให้สร้างลิงก์มาให้เรา
• Guestpost Backlinks มักจะได้ลิงก์ที่มีคุณภาพและมาจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือมากกว่า ซึ่งส่งผลดีต่อ SEO ในระยะยาว แต่ก็ใช้เวลาและความพยายามมากกว่า
• การซื้อ Backlink จาก Fiverr นั้นสะดวกและรวดเร็ว แต่คุณภาพของลิงก์อาจจะหลากหลายและมีความเสี่ยงที่ลิงก์จะไม่มีคุณภาพหรือถูก Google มองว่าผิดกฎได้
• การเลือก Guestpost Backlinks ควรดูที่คุณภาพของเว็บไซต์เป้าหมายและการเขียนบทความที่มีประโยชน์ ส่วนการซื้อจาก Fiverr ควรเลือกผู้ขายที่มีรีวิวดีและสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจน
• การวัดผลความสำเร็จควรดูที่อันดับคำค้นหา ปริมาณ Traffic ที่เพิ่มขึ้น และการจัดอันดับโดยรวมของเว็บไซต์ ไม่ใช่แค่จำนวนลิงก์ที่ได้มา

มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Guestpost Backlinks คืออะไรกันแน่ หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำนี้มาบ้างแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่ หรือมันมีประโยชน์กับเว็บไซต์ของเรายังไงบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่างกันไปเลย

Guestpost Backlinks ก็คือลิงก์ที่ได้มาจากการที่เราไปเขียนบทความลงในเว็บไซต์อื่นนั่นแหละครับ คิดง่ายๆ เหมือนเราไปเป็น ‘แขกรับเชิญ’ เขียนบทความให้เขา แล้วเขาก็ให้เครดิตเราด้วยการใส่ลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา ซึ่งลิงก์ที่ว่าเนี่ยแหละคือ Guestpost Backlinks ที่เราต้องการ

• หลักการทำงาน: เราเสนอตัวเขียนบทความที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์เป้าหมาย
• การแลกเปลี่ยน: เมื่อบทความของเราได้รับการยอมรับ เจ้าของเว็บไซต์ก็จะใส่ลิงก์ที่เชื่อมโยงกลับมายังเว็บของเราให้
• เป้าหมาย: เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดผู้เข้าชมจากเว็บไซต์ที่เราไปลงบทความ

การทำ Guestpost Backlinks มีข้อดีหลายอย่างเลยนะ ไม่ใช่แค่เรื่องลิงก์อย่างเดียว ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง:

• เพิ่ม Traffic: คนที่อ่านบทความของเราในเว็บอื่น ถ้าสนใจก็จะคลิกเข้ามาที่เว็บเรา ทำให้มีคนเข้าเว็บเรามากขึ้น
• สร้างความน่าเชื่อถือ: การที่เราได้ไปเขียนบทความในเว็บที่มีชื่อเสียง จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของเราในสายตาคนอื่นและ Google ด้วย
• ได้ Backlink คุณภาพ: ถ้าเลือกเว็บดีๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรา ลิงก์ที่ได้มาก็จะถือว่าเป็นลิงก์ที่มีคุณภาพ ช่วยเรื่อง SEO ได้เยอะเลย
• สร้างเครือข่าย: เป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์กับเจ้าของเว็บไซต์อื่นๆ หรือนักเขียนคนอื่นๆ ในวงการเดียวกัน

การทำ Guestpost ไม่ใช่แค่การหาลิงก์ แต่เป็นการสร้างคุณค่าและแสดงความเชี่ยวชาญของเราให้คนอื่นเห็นด้วยนะ

ถึงแม้จะมีข้อดีเยอะ แต่ก็มีบางอย่างที่ต้องระวังเหมือนกันนะ ไม่งั้นอาจจะเสียเวลาเปล่า หรือแย่กว่านั้นคืออาจจะส่งผลเสียต่อเว็บเราได้เลย

• เลือกเว็บไม่ดี: ถ้าไปลงเว็บที่ไม่มีคุณภาพ หรือเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องเลย ลิงก์ที่ได้มาก็อาจจะไม่มีประโยชน์ หรืออาจจะโดน Google มองว่าสแปมได้
• บทความไม่ดี: เขียนบทความแบบขอไปที ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์ คนอ่านก็ไม่คลิก แถมยังทำให้ภาพลักษณ์เราดูไม่ดีอีก
• โดนปฏิเสธ: บางทีเราเสนอตัวไปแล้ว แต่เจ้าของเว็บเขาไม่รับ หรือไม่ให้ลิงก์กลับมา ก็ต้องทำใจและลองหาเว็บอื่นดู
• การติดตามผล: ต้องคอยดูด้วยว่าลิงก์ที่เราลงไปมันยังอยู่ดีไหม หรือมีปัญหาอะไรหรือเปล่า

มาดูกันว่าทำไมหลายคนถึงหันไปพึ่ง Fiverr ในการหาแบ็กลิงก์ให้เว็บไซต์กันบ้างนะ

Fiverr นี่เหมือนตลาดนัดออนไลน์เลยนะ มีคนมาเปิดร้านขายบริการ SEO เพียบเลย โดยเฉพาะเรื่องแบ็กลิงก์นี่มีให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่แบบง่ายๆ ไปจนถึงซับซ้อน บางทีก็มีแพ็กเกจที่รวมหลายๆ อย่างไว้ด้วยกัน ทำให้เราเลือกได้ตามงบประมาณและความต้องการเลยแหละ

• ความสะดวกสบาย: แค่คลิกไม่กี่ที ก็มีคนมาทำแบ็กลิงก์ให้เราแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปหาเอง หรือไปสร้างเองให้วุ่นวาย
• ราคาที่เข้าถึงง่าย: หลายๆ บริการมีราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก ทำให้คนที่มีงบจำกัดก็สามารถเข้าถึงได้
• ความหลากหลายของบริการ: มีให้เลือกตั้งแต่การทำ PBN, GSA, หรือแม้แต่การโพสต์ตามเว็บบอร์ดต่างๆ ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นต่างกันไป

ถึงแม้จะสะดวกและมีตัวเลือกเยอะ แต่ก็ต้องระวังนิดนึงนะ เพราะบางทีเราอาจจะเจอผู้ให้บริการที่ไม่ได้คุณภาพ หรือใช้เทคนิคที่เสี่ยงต่อการโดน Google ลงโทษได้เหมือนกัน

การเลือกผู้ให้บริการบน Fiverr ต้องดูดีๆ นะครับ บางทีราคาถูกมากๆ อาจจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่มองไม่เห็น ควรศึกษาข้อมูลของผู้ขายและรีวิวให้ละเอียดก่อนตัดสินใจเสมอ

• คุณภาพของลิงก์: บางครั้งลิงก์ที่ได้อาจจะมาจากเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ หรือเป็นสแปม ทำให้ส่งผลเสียต่ออันดับของเว็บไซต์เราแทน
• ความเสี่ยงในการโดนแบน: หากผู้ให้บริการใช้เทคนิคที่ผิดกฎของ Google เช่น การซื้อขายลิงก์ที่ชัดเจนเกินไป หรือใช้โปรแกรมอัตโนมัติที่ตรวจจับได้ เว็บไซต์ของเราอาจจะโดนลงโทษได้
• การสื่อสารที่อาจไม่ราบรื่น: บางครั้งการสื่อสารกับผู้ให้บริการที่อยู่ต่างประเทศ อาจมีอุปสรรคด้านภาษา หรือความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทำให้งานที่ออกมาไม่ตรงตามที่เราต้องการ

มาดูกันชัดๆ ว่าระหว่าง Guestpost Backlinks กับ Backlink จาก Fiverr เนี่ย มันมีดีมีเสียต่างกันยังไง จะได้เลือกถูกว่าแบบไหนเหมาะกับเรามากกว่ากัน

เรื่องคุณภาพนี่สำคัญสุดๆ เลยนะ เพราะลิงก์ที่ได้มามันส่งผลต่ออันดับเว็บเราโดยตรงเลย

• Guestpost Backlinks: ส่วนใหญ่จะได้ลิงก์จากเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเราจริงๆ เจ้าของเว็บเขาก็อยากได้บทความดีๆ ไปลง ก็เลยมักจะยอมให้ลิงก์แบบธรรมชาติๆ ที่มีประโยชน์กับคนอ่านจริงๆ คุณภาพเลยมักจะสูงกว่า เพราะมันมาจากความตั้งใจที่จะให้ข้อมูล ไม่ใช่แค่แปะลิงก์ไปงั้นๆ
• Backlink จาก Fiverr: อันนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่ดวงจริงๆ เพราะมีผู้ขายเยอะมาก บางเจ้าก็ทำดี บางเจ้าก็อาจจะเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ เราอาจจะได้ลิงก์จากเว็บที่ไม่ค่อยเกี่ยว หรือเว็บที่ดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ ถ้าเลือกไม่ดีก็อาจจะเสียเงินเปล่า หรือแย่กว่านั้นคือโดน Google มองว่าไม่ดีก็ได้

เราอยากให้ลิงก์ที่เราได้มามันอยู่กับเราไปนานๆ ใช่ไหมล่ะ?

• Guestpost Backlinks: ถ้าเราทำดีๆ เขียนบทความให้มีคุณภาพ เจ้าของเว็บเขาก็จะเก็บบทความเราไว้ ทำให้ลิงก์ของเราอยู่ได้นานมากๆ บางทีเป็นปีๆ เลยก็มี ยิ่งถ้าเว็บนั้นมีคนเข้าเยอะๆ ก็ยิ่งดี
• Backlink จาก Fiverr: อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริการที่เลือก บางบริการอาจจะทำลิงก์แบบ PBN (Private Blog Network) หรือเว็บที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำลิงก์โดยเฉพาะ ซึ่งพวกนี้มีความเสี่ยงที่จะโดน Google จับได้และแบนได้ง่าย ถ้าโดนแบนขึ้นมา ลิงก์ที่เราเสียเงินซื้อไปก็หายวับไปกับตาเลยนะ

มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ กันบ้าง

• Guestpost Backlinks: โดยทั่วไปแล้ว การทำ Guestpost จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เพราะเราต้องลงทุนทั้งเวลาในการเขียนบทความ และอาจจะต้องจ่ายเงินให้เจ้าของเว็บด้วย แต่สิ่งที่ได้กลับมามักจะคุ้มค่าในระยะยาว ทั้งเรื่องคุณภาพของลิงก์และ Traffic ที่อาจจะตามมา
• Backlink จาก Fiverr: ราคาถูกกว่ามากกกก มีให้เลือกตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อยดอลลาร์ ทำให้ดูน่าสนใจสำหรับคนที่มีงบจำกัด แต่ก็ต้องแลกมากับความเสี่ยงเรื่องคุณภาพและความยั่งยืนอย่างที่บอกไป ถ้ามองแค่ปริมาณลิงก์ในราคาถูกๆ อันนี้อาจจะตอบโจทย์ แต่ถ้ามองถึงผลลัพธ์ระยะยาว อาจจะต้องคิดดีๆ

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าเน้นคุณภาพและความยั่งยืนระยะยาว Guestpost Backlinks ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้ามีงบจำกัดและยอมรับความเสี่ยงได้ Backlink จาก Fiverr ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่พอไหว แต่ต้องเลือกผู้ให้บริการดีๆ หน่อยนะ

มาถึงตรงนี้ หลายคนคงเริ่มสงสัยแล้วว่า แล้วเราจะเลือกทางไหนดีล่ะ ระหว่าง Guestpost Backlinks กับ Backlink จาก Fiverr? จริงๆ แล้วมันไม่มีคำตอบตายตัวหรอกนะ มันขึ้นอยู่กับเป้าหมาย งบประมาณ และเวลาที่เรามีมากกว่า

ถ้าคุณกำลังมองหา ลิงก์คุณภาพสูง ที่มาจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ และอยากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของเว็บไซต์อื่น ๆ การทำ Guestpost คือคำตอบเลยครับ Guestpost Backlinks จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณในสายตาของ Google และผู้ใช้งาน มันเหมือนกับการที่เราไปแนะนำตัวกับคนที่มีอิทธิพลในวงการน่ะแหละ ยิ่งเราไปปรากฏตัวในที่ที่เหมาะสม คนก็ยิ่งรู้จักและเชื่อถือเรามากขึ้น

• สร้างความน่าเชื่อถือระยะยาว: ลิงก์ที่ได้จากการทำ Guestpost มักจะมีความยั่งยืนมากกว่า เพราะมันมาจากเนื้อหาที่มีคุณภาพและถูกใจทั้งคนอ่านและเจ้าของเว็บไซต์
• เพิ่ม Traffic คุณภาพ: คนที่เข้ามาอ่านบทความของเราบนเว็บไซต์อื่น ก็มีแนวโน้มที่จะสนใจและคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของเรามากขึ้น
• สร้าง Brand Awareness: การที่เรามีบทความไปปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ดังๆ ก็เหมือนเป็นการโปรโมทแบรนด์ไปในตัว

การทำ Guestpost ต้องใช้เวลาและความพยายามในการหาเว็บไซต์ที่ใช่ ติดต่อเจ้าของเว็บไซต์ และเขียนบทความที่มีคุณภาพ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มักจะคุ้มค่าในระยะยาวนะ

ส่วนถ้าคุณมีงบประมาณจำกัด หรือต้องการผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเร็ว การมองหาบริการ Backlink บน Fiverr ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ ที่นี่มีผู้ให้บริการหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ลิงก์จาก PBN, เว็บ 2.0 ไปจนถึงการทำ Directory Submission ซึ่งแต่ละแบบก็มีราคาและคุณภาพต่างกันไป Fiverr เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มจำนวน Backlink อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยดันอันดับในระยะสั้น หรือใช้เป็นส่วนเสริมกลยุทธ์หลัก

• ความรวดเร็ว: สั่งปุ๊บ ได้ปั๊บ (ตามแพ็กเกจที่เลือก) ไม่ต้องเสียเวลาเขียนบทความเอง
• ความหลากหลาย: มีตัวเลือกเยอะมาก สามารถเลือกประเภทของลิงก์ที่ต้องการได้
• ราคาเข้าถึงง่าย: มีแพ็กเกจราคาถูกให้เลือกเยอะ เหมาะกับคนเริ่มต้น

แต่ก็ต้องบอกว่า การซื้อลิงก์จาก Fiverr มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกันนะ ต้องเลือกผู้ขายดีๆ ไม่งั้นอาจจะได้ลิงก์คุณภาพต่ำ หรือโดน Google ตรวจสอบได้เลย

จริงๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอไปนะ การผสมผสานทั้งสองกลยุทธ์เข้าด้วยกันต่างหากที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณปังแบบก้าวกระโดดได้เลย ลองนึกภาพว่าเราทำ Guestpost เพื่อสร้างลิงก์คุณภาพสูงและเพิ่มความน่าเชื่อถือ ควบคู่ไปกับการใช้บริการ Backlink จาก Fiverr ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยดันอันดับในภาพรวม การทำแบบนี้จะช่วยให้เราได้ทั้งคุณภาพและความเร็ว เป็นการลงทุนที่รอบด้านจริงๆ

• เน้น Guestpost เป็นหลัก: สำหรับลิงก์สำคัญๆ ที่ต้องการคุณภาพและความยั่งยืน
• เสริมด้วย Fiverr: สำหรับลิงก์ที่ต้องการเพิ่มจำนวน หรือใช้ดันอันดับในระยะสั้น
• ติดตามผลเสมอ: ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน อย่าลืมวัดผลและปรับกลยุทธ์อยู่เรื่อยๆ นะครับ

เวลาจะเลือกใครมาช่วยทำลิงก์ให้เว็บไซต์ของเราเนี่ย มันก็มีหลายอย่างที่ต้องดูนะ ไม่ใช่จะเลือกมั่วๆ ไปได้เลย เพราะถ้าเลือกผิด ชีวิตอาจจะยุ่งยากกว่าเดิมอีก

ก่อนอื่นเลยนะ ให้ลองเข้าไปดูโปรไฟล์ของคนที่จะจ้างให้ดีๆ ก่อนเลย ว่าเขาทำอะไรมาบ้าง มีประสบการณ์แค่ไหน แล้วที่สำคัญมากๆ คือ ดูรีวิวจากลูกค้าคนอื่นๆ ว่าเขาพูดถึงบริการนี้ว่ายังไงบ้าง มีปัญหาอะไรที่คนอื่นเจอไหม ถ้าเห็นรีวิวดีๆ เยอะๆ ก็อุ่นใจไปเปลาะหนึ่ง แต่ถ้าเจอรีวิวแย่ๆ หรือไม่มีรีวิวเลย ก็ต้องคิดหนักหน่อยนะ

อย่ากลัวที่จะถามนะ! ถามไปเลยว่าลิงก์ที่เขาจะทำให้น่ะ มันมาจากเว็บประมาณไหน เป็นเว็บประเภทไหน มีคนเข้าเยอะไหม หรือเป็นเว็บที่เกี่ยวกับเนื้อหาของเราหรือเปล่า เพราะลิงก์ที่ได้มาจากเว็บคุณภาพดีๆ มันจะช่วยให้เว็บเราดูดีขึ้นในสายตา Google ด้วยนะ ถ้าเขาตอบแบบคลุมเครือ หรือบอกไม่ได้เลยว่าลิงก์จะมาจากไหน ก็อาจจะต้องพิจารณาใหม่

การคุยกันให้รู้เรื่องนี่สำคัญสุดๆ เลยนะ เวลาคุยกับผู้ให้บริการ ควรจะบอกความต้องการของเราให้ชัดเจน ว่าอยากได้ลิงก์แบบไหน จำนวนเท่าไหร่ งบประมาณเท่าไหร่ แล้วก็ถามเขาด้วยว่าเขามีบริการอะไรให้บ้าง ราคาเท่าไหร่ ทำงานเสร็จเมื่อไหร่ ถ้าคุยกันแล้วรู้สึกว่าเขาตอบคำถามได้ดี ชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่หมกเม็ด อันนี้ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเลยแหละ

• ความโปร่งใส: ผู้ให้บริการที่ดีควรจะบอกรายละเอียดทุกอย่างได้ชัดเจน
• การตอบสนอง: ควรจะตอบคำถามของเราได้เร็วพอสมควร
• ความเป็นมืออาชีพ: ดูจากการพูดจาและการให้ข้อมูล

การทำ Guestpost หรือการเขียนบทความไปลงเว็บไซต์อื่นเพื่อแลกกับลิงก์กลับมาที่เว็บเราเนี่ย มันก็มีเทคนิคของมันนะ ไม่ใช่แค่เขียนๆ ไปแล้วหวังว่าเขาจะใส่ลิงก์ให้เราเฉยๆ ถ้าอยากได้ลิงก์ดีๆ กลับมาจริงๆ ต้องใส่ใจรายละเอียดหน่อย

อันนี้สำคัญมากเลยนะ ต้องเลือกเว็บที่เขาเข้ากลุ่มเป้าหมายเดียวกับเรา หรือมีความเกี่ยวข้องกันในระดับหนึ่ง ไม่งั้นลิงก์ที่ได้ไปก็อาจจะดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ ลองดูเว็บที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับเรา มีคนอ่านเยอะพอสมควร และที่สำคัญคือ เจ้าของเว็บต้องเปิดรับการทำ Guestpost ด้วยนะ ไม่งั้นก็เสียเวลาเปล่า

• ดูว่าเว็บนั้นมีคนเข้าเยอะไหม (Traffic)
• เนื้อหาของเว็บนั้นเกี่ยวกับอะไร เกี่ยวกับเราแค่ไหน
• เว็บนั้นมีชื่อเสียงน่าเชื่อถือหรือเปล่า
• มีนโยบายรับ Guestpost ชัดเจนไหม

พอเลือกเว็บได้แล้ว ก็ต้องมาถึงเรื่องบทความของเราแล้วล่ะ คิดง่ายๆ ว่าถ้าเราเป็นคนอ่าน เราอยากอ่านอะไรที่ให้ประโยชน์จริงๆ หรือเปล่า? บทความที่ดีควรจะให้ข้อมูลใหม่ๆ แก้ปัญหาให้คนอ่าน หรือให้มุมมองที่น่าสนใจ อย่าเขียนแค่โปรโมทสินค้าหรือบริการของเราอย่างเดียว เพราะมันจะดูไม่เป็นธรรมชาติและคนอ่านอาจจะไม่อิน

• หาหัวข้อที่คนสนใจและเราถนัด
• เขียนให้ข้อมูลแน่นๆ มีประโยชน์จริงๆ
• ใช้ภาษาที่อ่านง่าย เข้าใจไม่ยาก
• ใส่รูปภาพหรือกราฟิกประกอบบ้างถ้าทำได้

การเขียนบทความที่มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่การใส่ลิงก์ แต่คือการสร้างคุณค่าให้กับผู้อ่านของเว็บไซต์นั้นๆ ด้วย ถ้าบทความเราดี คนอ่านชอบ เขาก็มีแนวโน้มที่จะคลิกลิงก์ของเรามากขึ้นเอง

อย่ามองว่าการทำ Guestpost เป็นแค่การส่งบทความไปแล้วจบๆ ลองพูดคุยกับเจ้าของเว็บไซต์บ้าง ทำความรู้จักกันไว้ ถ้าเราเป็นคนที่มีประโยชน์กับเขา เขาก็อาจจะอยากให้เรากลับมาเขียนอีก หรือแนะนำเราให้คนอื่นรู้จักก็ได้นะ การสร้างคอนเนคชั่นดีๆ มันช่วยได้เยอะจริงๆ ในระยะยาว

• ทักทาย พูดคุย แนะนำตัว
• เสนอไอเดียบทความที่น่าจะเป็นประโยชน์กับเว็บเขา
• ตอบคำถามหรือข้อสงสัยของเขาอย่างรวดเร็ว
• ถ้าบทความเราได้ผลดี ลองแจ้งผลให้เขาทราบด้วย

เวลาซื้อ Backlink เนี่ย มันมีกับดักเยอะเหมือนกันนะ ถ้าไม่ระวังดีๆ อาจจะเสียเงินเปล่า หรือแย่กว่านั้นคือโดน Google ตีหัวเอาได้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ควรเลี่ยง

อันนี้เจอบ่อยสุดเลย คือเห็นว่าถูก หรือดูเหมือนจะดี แต่จริงๆ แล้วเป็นเว็บขยะ เว็บสแปม หรือเว็บที่สร้างขึ้นมาเพื่อขายลิงก์โดยเฉพาะ พวกนี้ Google รู้ทันหมดแหละ พอลิงก์มาจากเว็บแบบนี้ แทนที่จะช่วยเว็บเรา มันกลับจะฉุดอันดับให้แย่ลงซะงั้น

• เว็บที่ไม่มีเนื้อหา หรือมีแต่เนื้อหาซ้ำๆ
• เว็บที่มีลิงก์ออกไปเยอะเกินไป แบบเป็นร้อยเป็นพันลิงก์
• เว็บที่โดน Google แบน หรือมีประวัติไม่ดี

บางทีคนขายอาจจะยัดลิงก์เราไปในบทความที่ไม่เกี่ยวกับเว็บเราเลย หรือใช้ Anchor Text ที่ไม่ตรงกับที่เราต้องการจริงๆ อันนี้ก็ไม่เวิร์ค เพราะมันดูไม่เป็นธรรมชาติ ทำให้ Google สงสัยว่าเรากำลังพยายามปั่นอันดับอยู่หรือเปล่า

พอจ่ายเงินไปแล้ว ก็คิดว่าจบๆ กันไป แต่จริงๆ ต้องกลับมาเช็คด้วยนะว่าลิงก์ที่ได้มามันอยู่ตรงไหน คุณภาพเป็นยังไง บางทีลิงก์อาจจะหายไป หรือโดนย้ายไปอยู่ในหน้าที่ไม่มีใครเห็นก็มี

การซื้อ Backlink เหมือนการลงทุนนะ ถ้าลงทุนผิดที่ผิดทาง ก็เจ๊งได้เหมือนกัน ต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ

สรุปง่ายๆ คือ อย่าเห็นแก่ของถูก หรือคำโฆษณาเกินจริง ให้เน้นที่คุณภาพและความยั่งยืนของลิงก์เป็นหลักดีกว่านะ

หลังจากที่เราทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจไปกับการทำ Guestpost หรือซื้อ Backlink มาแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการมาดูกันว่ามันได้ผลจริงไหม เว็บไซต์ของเราปังขึ้นจริงหรือเปล่า

อันนี้เห็นผลชัดเจนที่สุดเลยนะ เวลาเราทำ SEO หรือสร้าง Backlink เนี่ย เป้าหมายหลักๆ ก็คืออยากให้เว็บเราติดอันดับดีๆ ใช่ไหมล่ะ ลองเช็คดูว่าคำที่เราเคยทำอันดับไว้ หรือคำที่เราตั้งใจจะดันเนี่ย มันขยับขึ้นมาบ้างหรือเปล่า ถ้าอันดับดีขึ้นเรื่อยๆ ก็แสดงว่าสิ่งที่เราทำไปมันเวิร์ค

• เช็คอันดับคำหลักที่เคยทำไว้
• ดูว่ามีคำใหม่ๆ ติดอันดับบ้างไหม
• สังเกตการเปลี่ยนแปลงของอันดับอย่างสม่ำเสมอ

อันดับดีขึ้นแล้ว Traffic เข้าเว็บเยอะขึ้นไหม? อันนี้ก็เป็นอีกตัวชี้วัดที่สำคัญมากๆ นะ ลองดูสถิติใน Google Analytics หรือเครื่องมืออื่นๆ ว่าช่วงหลังๆ มานี้ มีคนเข้าเว็บเรามากขึ้นหรือเปล่า ถ้ามีคนคลิกเข้ามาเยอะขึ้น ก็แปลว่า Backlink ที่เราสร้างมามันช่วยดึงดูดคนให้เข้ามาที่เว็บเราได้จริง

การมี Traffic ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัญญาณที่ดีว่ากลยุทธ์ Backlink ของคุณกำลังทำงานได้ผล และช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น

อันนี้อาจจะดูภาพรวมหน่อย คือดูว่าเว็บไซต์ของเราโดยรวมแล้ว มันดูน่าเชื่อถือในสายตาของ Google มากขึ้นไหม บางทีอันดับคำหลักอาจจะยังไม่ขยับมาก แต่ถ้าดูภาพรวมแล้ว เว็บเราดูมีน้ำหนักมากขึ้นใน Search Engine ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีนะ ลองดูพวก Domain Authority (DA) หรือ Page Authority (PA) ถ้ามันสูงขึ้น ก็แสดงว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพมากขึ้นจริงๆ ซึ่ง คุณภาพของลิงก์ ที่เราสร้างมามีผลมากๆ กับเรื่องนี้เลย

วัดผลความสำเร็จ: ดูจากอะไร? การจะรู้ว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นได้ผลดีแค่ไหน เราต้องมีวิธีวัดผลที่ชัดเจนนะ ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ช่วยให้เราเห็นภาพความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ถ้าอยากรู้เทคนิคดีๆ เพิ่มเติม เข้าไปดูได้เลยที่เว็บไซต์ของเรา!

เอาล่ะ มาถึงช่วงสุดท้ายกันแล้วนะ สรุปง่ายๆ เลยคือ จะเลือกทำ Guestpost หรือจะไปซื้อ Backlink จาก Fiverr ดีเนี่ย? จริงๆ มันก็ไม่มีคำตอบตายตัวหรอกนะ มันขึ้นอยู่กับว่าเรามีงบเท่าไหร่ แล้วก็อยากได้ผลลัพธ์แบบไหน ถ้ามีเวลาหน่อย อยากได้คุณภาพจริงๆ ที่ช่วยให้เว็บเราโตแบบยั่งยืน การทำ Guestpost เองอาจจะตอบโจทย์กว่านะ ถึงจะเหนื่อยหน่อย แต่เราควบคุมได้ทุกอย่างเลยไง แต่ถ้าแบบว่า งบน้อย อยากได้เร็วๆ หรือไม่ค่อยมีเวลาจริงๆ การลองหาคนทำ Backlink จาก Fiverr ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนะ แค่ต้องเลือกดีๆ หน่อย เลือกเจ้าที่ดูน่าเชื่อถือหน่อย ไม่งั้นอาจจะเสียเงินฟรี หรือได้ Backlink ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ก็ได้ สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำเว็บของเราให้ดี มีเนื้อหาที่คนอยากอ่านจริงๆ นั่นแหละ ถึงจะมี Backlink ดีแค่ไหน ถ้าเว็บเราไม่ปัง คนก็ไม่รักอยู่ดีแหละเนอะ

Guestpost Backlink เหมือนเราไปเขียนบทความลงเว็บอื่น แล้วเขาให้ลิงก์กลับมา ส่วน Backlink จาก Fiverr คือเราจ่ายเงินซื้อลิงก์จากคนขายบนเว็บ Fiverr โดยตรงเลย

เพราะมันดูเป็นธรรมชาติมากกว่า เหมือนเราไปช่วยสร้างประโยชน์ให้เว็บอื่นด้วยบทความดีๆ Google เลยชอบมากกว่า

เสี่ยงเหมือนกันนะ ถ้าเจอคนขายไม่ดี เขาอาจจะให้ลิงก์จากเว็บไม่ดีๆ มาให้ ซึ่งอาจจะทำให้เว็บเราโดน Google ทำโทษได้

ถ้ามีเวลาและอยากได้ผลดีระยะยาว แนะนำ Guestpost มากกว่า แต่ถ้าอยากได้เร็วๆ และยอมรับความเสี่ยงได้ อาจจะลอง Fiverr ดูก่อนก็ได้

ต้องดูโปรไฟล์คนขาย รีวิวจากคนอื่น ถามเขาให้ดีๆ ว่าลิงก์ที่ได้มาจากเว็บไหน คุณภาพเป็นยังไง สำคัญมาก!

ต้องเขียนเรื่องที่คนอ่านอยากรู้ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่แค่แปะลิงก์ไปเฉยๆ

ไม่จำเป็นเลย Google ไม่ชอบเว็บที่มีลิงก์เยอะเกินไปจนดูไม่ธรรมชาติ เน้นคุณภาพดีกว่าปริมาณนะ

ดูว่าเว็บเรามีคนเข้ามากขึ้นไหม อันดับใน Google ดีขึ้นหรือเปล่า ถ้าดีขึ้น แสดงว่าลิงก์นั้นน่าจะช่วยได้