กำลังสงสัยว่า Guest Post คืออะไรกันแน่? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับการทำ Guest Post แบบง่ายๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเทคนิคขั้นสูง ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ในวงการออนไลน์ หรือกำลังมองหาวิธีเพิ่มการมองเห็นให้ธุรกิจของคุณ คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้จะช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมและนำไปใช้ได้จริง ลองมาดูกันว่า Guest Post มีดีอะไรบ้าง และจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเติบโตได้อย่างไร
ประเด็นสำคัญที่ควรรู้
- Guest Post คือ การเขียนบทความลงในเว็บไซต์อื่นเพื่อแลกกับการโปรโมทเว็บไซต์หรือแบรนด์ของเราเอง
- การทำ Guest Post ช่วยเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ เพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างลิงก์กลับมายังเว็บเราได้
- เลือกเว็บไซต์ที่จะไปลง Guest Post ต้องดูว่ากลุ่มเป้าหมายตรงกันไหม และเว็บนั้นน่าเชื่อถือแค่ไหน
- เขียนบทความให้ดี มีประโยชน์กับคนอ่าน และใส่ลิงก์กลับแบบเนียนๆ ไม่ใช่การขายของตรงๆ
- ต้องคอยดูผลลัพธ์ว่ามีคนเข้าเว็บเรามากขึ้นไหม มีคนสนใจบทความเรามากแค่ไหน
Guest Post คืออะไร? มาทำความเข้าใจกัน
สวัสดีครับทุกคน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง แต่ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่ นั่นก็คือ "Guest Post" นั่นเองครับ ถ้าจะให้อธิบายแบบบ้านๆ เลยนะ Guest Post ก็เหมือนกับการที่เราไปเขียนบทความลงในเว็บไซต์ของคนอื่นนั่นแหละ แต่ไม่ใช่ไปเขียนเล่นๆ นะ มันมีเป้าหมายและประโยชน์ซ่อนอยู่เพียบเลย
นิยามของ Guest Post แบบเข้าใจง่าย
ลองนึกภาพว่าคุณมีบล็อกส่วนตัวเกี่ยวกับกาแฟ แล้วมีเว็บไซต์ใหญ่ๆ ที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์มาบอกว่า "อยากให้คุณมาเขียนบทความเรื่อง ‘5 วิธีชงกาแฟให้อร่อยเหมือนบาริสต้า’ ลงที่เว็บเราไหม?" ถ้าคุณตกลงไปเขียนให้ นั่นแหละครับคือ Guest Post คุณจะได้เอาความรู้เรื่องกาแฟของคุณไปแบ่งปันให้คนอ่านของเว็บนั้นๆ ได้รู้จัก และแน่นอนว่าคุณก็จะได้ใส่ลิงก์กลับมาที่บล็อกกาแฟของคุณด้วย
สรุปง่ายๆ คือ:
- คุณ (Guest Writer): คนที่ไปเขียนบทความ
- เว็บไซต์เจ้าบ้าน (Host Website): เว็บไซต์ที่เปิดรับบทความจากคนนอก
- บทความ (Guest Post): เนื้อหาที่คุณเขียนขึ้นมาเพื่อลงในเว็บเจ้าบ้าน
ทำไม Guest Post ถึงสำคัญกับธุรกิจออนไลน์
หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ แล้วการไปเขียนให้เว็บอื่นมันจะดีกับธุรกิจเราได้ยังไง? มันมีเหตุผลหลายอย่างเลยครับ ที่ทำให้ Guest Post กลายเป็นเครื่องมือการตลาดที่หลายธุรกิจออนไลน์ให้ความสนใจ
- เพิ่มการมองเห็น: เวลาคุณไปเขียนบทความในเว็บที่มีคนเข้าเยอะๆ ก็เหมือนกับการเอาสินค้าหรือบริการของคุณไปโชว์ให้คนจำนวนมากเห็นนั่นแหละครับ ยิ่งเว็บนั้นมีคนเข้าเยอะเท่าไหร่ โอกาสที่คนจะรู้จักแบรนด์ของคุณก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
- สร้างความน่าเชื่อถือ: การที่คุณได้ไปเขียนบทความในเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ หรือเป็นที่รู้จักในวงการ มันจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ธุรกิจของคุณดูดีขึ้นตามไปด้วย คนจะมองว่าคุณมีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ จริงๆ
- ได้ Backlink คุณภาพ: อันนี้เป็นประโยชน์ทางเทคนิคที่สำคัญมากสำหรับ SEO (Search Engine Optimization) การที่คุณได้ลิงก์จากเว็บไซต์อื่นกลับมาที่เว็บของคุณ (เรียกว่า Backlink) มันเหมือนกับการได้รับการแนะนำจากเว็บนั้นๆ ให้กับ Google ซึ่งจะช่วยให้เว็บของคุณมีอันดับที่ดีขึ้นในการค้นหาครับ
การทำ Guest Post ไม่ใช่แค่การเขียนบทความไปลงให้เว็บอื่นเฉยๆ แต่มันคือกลยุทธ์ที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจของคุณ ทั้งในแง่ของการตลาดและการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์
ประโยชน์ของการทำ Guest Post ที่คุณอาจไม่เคยรู้
หลายคนอาจจะมองว่าการเขียน Guest Post เป็นแค่การหาที่ลงบทความฟรีๆ แต่จริงๆ แล้วมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะเลยนะ ประโยชน์ที่ได้กลับมามันคุ้มค่าจนคุณอาจจะคาดไม่ถึงเลยก็ได้
เพิ่ม Traffic เข้าสู่เว็บไซต์แบบเน้นๆ
ลองคิดดูนะ เวลาเราไปเขียนบทความลงในเว็บไซต์อื่นที่มีคนเข้าเยอะๆ แล้วเราใส่ลิงก์กลับมาที่เว็บของเราเอง คนที่อ่านบทความของเราแล้วชอบ เขาก็มีโอกาสคลิกตามกลับมาที่เว็บเราเยอะเลย นี่แหละคือการได้ Traffic ที่มีคุณภาพ เพราะคนที่คลิกเข้ามาคือคนที่สนใจในเรื่องที่เราเขียนจริงๆ ไม่ใช่แค่คนหลงเข้ามาเฉยๆ มันเหมือนกับการที่เราไปเปิดบูธในงานอีเวนต์ใหญ่ๆ ที่มีคนเดินผ่านเยอะๆ แล้วเราก็มีป้ายบอกทางกลับร้านของเรานั่นแหละ ยิ่งเว็บที่เราไปลงมีกลุ่มเป้าหมายตรงกับเรามากเท่าไหร่ Traffic ที่ได้มาก็จะยิ่งมีคุณภาพมากขึ้นเท่านั้น
สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี
การที่เราได้ไปเขียนบทความในเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง หรือเป็นที่ยอมรับในวงการ มันช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเราและธุรกิจของเราได้มากเลยนะ เหมือนกับว่าเราได้รับการรับรองจากเว็บนั้นๆ ว่าเรามีความรู้ความสามารถในเรื่องที่เราเขียนจริงๆ คนที่เห็นบทความของเราก็จะมองว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ไปโดยปริยาย มันช่วยสร้าง Personal Branding ให้เราได้ดีมากๆ เลยล่ะ
โอกาสในการสร้าง Backlink คุณภาพ
อันนี้เป็นประโยชน์ที่หลายคนมองหาเลยนะ การทำ Guest Post เป็นวิธีที่ดีมากๆ ในการสร้าง Backlink คุณภาพกลับมาที่เว็บไซต์ของเรา เพราะลิงก์ที่ได้จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรา จะช่วยเพิ่มคะแนน SEO ให้กับเว็บไซต์ของเราได้เยอะเลยนะ ลองนึกภาพว่าถ้ามีเว็บใหญ่ๆ หลายเว็บลิงก์มาหาเรา มันก็เหมือนกับว่า Google มองว่าเว็บของเรามีความสำคัญและน่าเชื่อถือมากขึ้นนั่นแหละ การหาโอกาสในการสร้าง Backlink คุณภาพแบบนี้เป็นเรื่องที่ Gemini ช่วยได้มาก ในการทำ SEO
สรุปง่ายๆ คือ การทำ Guest Post ไม่ใช่แค่การเขียนบทความลงเว็บคนอื่น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างการรับรู้ สร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในระยะยาวเลยล่ะ
ประเภทของ Guest Post ที่นิยมใช้กัน
พอเรารู้แล้วว่า Guest Post คืออะไร แล้วทำไมมันถึงดีกับธุรกิจของเรา ทีนี้ก็มาดูกันว่าไอ้เจ้า Guest Post เนี่ย มันมีกี่แบบนะ แล้วแบบไหนที่เหมาะกับเราบ้าง
Guest Post แบบเน้นให้ความรู้
อันนี้เป็นแบบเบสิกสุดๆ เลยนะ คือเราเขียนบทความที่มีเนื้อหาสาระ ให้ความรู้ หรือเป็นประโยชน์กับผู้อ่านของเว็บไซต์ที่เราไปลงเนี่ยแหละ เป้าหมายหลักคือการแสดงให้เห็นว่าเรามีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ จริงๆ ไม่ใช่แค่มาขายของอย่างเดียว
- เนื้อหาต้องมีคุณภาพ: ต้องตอบคำถาม หรือแก้ปัญหาให้ผู้อ่านได้จริงๆ
- ภาษาต้องอ่านง่าย: ไม่ใช่เขียนวิชาการจ๋าจนคนทั่วไปอ่านไม่รู้เรื่อง
- ใส่ลิงก์กลับมาที่เว็บเรา: อาจจะลิงก์ไปบทความที่เกี่ยวข้อง หรือหน้าหลักของเราก็ได้ แต่ต้องเนียนๆ นะ
การให้ความรู้แบบนี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แบรนด์เราได้เยอะเลยนะ ทำให้คนรู้สึกว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ
Guest Post แบบรีวิวสินค้า/บริการ
อันนี้ก็ตรงตัวเลย คือเราไปเขียนรีวิวสินค้าหรือบริการของเราเองบนเว็บไซต์อื่น แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ทุกเว็บจะยอมให้เราทำแบบนี้นะ ส่วนใหญ่เว็บที่รับรีวิวก็มักจะเป็นเว็บที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ โดยตรง หรือไม่ก็เป็นเว็บที่มีกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกัน
- รีวิวต้องจริงใจ: อย่าอวยจนเกินจริง คนอ่านจับได้นะ
- เน้นประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ: บอกว่าสินค้าเราช่วยแก้ปัญหาอะไรให้เขาได้บ้าง
- มีรูปภาพประกอบ: ถ้าเป็นไปได้ ใส่รูปสินค้าของเรา หรือรูปตอนใช้งานจริง จะช่วยให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
Guest Post แบบสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ
อันนี้จะต่างออกไปหน่อย คือเราไม่ได้เป็นคนเขียนบทความเองทั้งหมด แต่เราจะไปเป็น ‘แขกรับเชิญ’ ให้เขาไปสัมภาษณ์ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการของเรา แล้วบทสัมภาษณ์นั้นก็จะถูกนำไปลงในเว็บไซต์ของเขา
- เตรียมตัวให้พร้อม: คิดคำตอบสำหรับคำถามที่คาดว่าจะโดนถามไว้ล่วงหน้า
- ตอบให้ตรงประเด็น: ไม่ต้องอ้อมค้อม แต่ก็อย่าสั้นไปจนไม่รู้เรื่อง
- ใช้โอกาสนี้โปรโมทตัวเอง: อาจจะบอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จ หรือประสบการณ์ที่น่าสนใจของเราก็ได้
การทำ Guest Post มีหลายรูปแบบจริงๆ นะ ลองเลือกแบบที่เหมาะกับเป้าหมายและธุรกิจของเราดู แล้วก็อย่าลืมว่าไม่ว่าจะทำแบบไหน คุณภาพของเนื้อหาคือหัวใจสำคัญที่สุด ถ้าเนื้อหาดี คนอ่านชอบ เขาก็อยากจะคลิกเข้าไปดู เว็บไซต์ของเรา มากขึ้นเองแหละ
ขั้นตอนการหาเว็บไซต์สำหรับทำ Guest Post
พอรู้แล้วว่า Guest Post คืออะไร แล้วมันดีกับธุรกิจเรายังไง คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ นั่นคือการหา ‘บ้าน’ ให้บทความของเราครับ การเลือกเว็บไซต์ที่จะไปลง Guest Post เนี่ย สำคัญมากๆ เลยนะ เพราะถ้าเลือกผิด ชีวิตอาจจะยากขึ้นไปอีก
มองหาเว็บไซต์ที่มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน
อันนี้คือหัวใจหลักเลยครับ ลองคิดดูว่าลูกค้าในฝันของเราเขาชอบไปอ่านอะไร ชอบเข้าไปดูเว็บไหน ถ้าเราไปลงบทความในเว็บที่คนอ่านไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเรา ต่อให้บทความเราดีแค่ไหน ก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
- ลองนึกภาพตาม: ถ้าเราขายอุปกรณ์สำหรับคนรักแมว แล้วเราไปลงบทความในเว็บที่คนส่วนใหญ่สนใจเรื่องรถยนต์ มันก็คงไม่มีใครคลิกเข้ามาอ่านใช่ไหมล่ะ?
- วิธีหา: ลองใช้ Google ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเรา แล้วดูว่ามีเว็บไหนที่ติดอันดับต้นๆ บ้าง เว็บพวกนี้แหละที่มีโอกาสเป็นแหล่งที่ดี
- ดูจากคู่แข่ง: ลองส่องดูว่าคู่แข่งของเราเขาไปลงบทความที่ไหนบ้าง เว็บพวกนั้นก็น่าจะเป็นเป้าหมายที่ดีของเราเหมือนกัน
ตรวจสอบคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์
ไม่ใช่แค่มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันก็พอ เราต้องดูด้วยว่าเว็บนั้นๆ มีคุณภาพแค่ไหน น่าเชื่อถือหรือเปล่า เพราะถ้าไปลงเว็บที่ดูไม่น่าไว้ใจ หรือมีแต่สแปม มันจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเราเอง
- ดูหน้าตาเว็บ: เว็บไซต์ดูเป็นมืออาชีพไหม? มีการอัปเดตเนื้อหาอยู่เรื่อยๆ หรือเปล่า?
- เช็คจำนวนผู้เข้าชม: ถ้าพอจะหาข้อมูลได้ ลองดูว่าเว็บนั้นมีคนเข้าเยอะแค่ไหน (บางทีอาจจะดูจาก Social Media ของเว็บนั้นๆ ก็พอเดาได้)
- อ่านคอมเมนต์: ลองดูว่าคนอ่านมีความคิดเห็นยังไงกับบทความในเว็บนั้นๆ มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันดีไหม
ดูว่าเว็บไซต์นั้นเปิดรับ Guest Post หรือไม่
บางเว็บอาจจะไม่ได้เปิดรับ Guest Post โดยตรง เราต้องสังเกตสัญญาณต่างๆ หรือบางทีก็ต้องลองสอบถามไปตรงๆ เลยครับ
- มองหาหน้า ‘เขียนถึงเรา’ หรือ ‘ติดต่อเรา’: บางเว็บจะมีบอกไว้ชัดเจนว่ารับ Guest Post ไหม หรือมีเงื่อนไขอะไรบ้าง
- ดูว่ามีบทความจากคนอื่นไหม: ถ้าในเว็บมีบทความที่ดูเหมือนเขียนโดยคนนอกอยู่แล้ว ก็มีโอกาสสูงที่เขาจะรับ Guest Post
- ลองส่งอีเมลสอบถาม: ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ การส่งอีเมลไปสอบถามอย่างสุภาพเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ บอกเขาไปเลยว่าเราสนใจจะเขียนบทความอะไรให้
การหาเว็บไซต์ที่ใช่สำหรับ Guest Post เหมือนกับการหาเพื่อนร่วมงานที่ดีครับ ต้องเลือกคนที่เข้ากันได้ มีเป้าหมายเดียวกัน และทำงานด้วยกันแล้วส่งเสริมกันและกัน การลงทุนเวลาหาข้อมูลตรงนี้ จะช่วยให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวครับ
เทคนิคการเขียน Guest Post ให้น่าสนใจ
เขียน Guest Post ให้คนอ่านติดหนึบ ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนะ ลองเอาเทคนิคพวกนี้ไปปรับใช้ดู
เลือกหัวข้อที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ
ก่อนจะเริ่มเขียนอะไรก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือการคิดว่ากลุ่มคนอ่านของเว็บที่เราจะไปลงบทความเนี่ย เขาชอบอะไรกันแน่? ลองเข้าไปดูในเว็บนั้นบ่อยๆ สังเกตว่าบทความไหนคนอ่านเยอะ คอมเมนต์เยอะ หรือลองไปส่องในกลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ดูว่าคนเขาคุยอะไรกันอยู่ หัวข้อที่ใช่ จะดึงดูดคนอ่านได้ตั้งแต่แรกเห็น
เขียนเนื้อหาให้มีคุณค่าและอ่านง่าย
พอได้หัวข้อแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการเขียน เนื้อหาต้องมีประโยชน์จริงๆ นะ ไม่ใช่แค่เขียนไปเรื่อยเปื่อย ลองคิดว่าถ้าเราเป็นคนอ่าน เราอยากได้อะไรจากบทความนี้? ข้อมูลแน่นๆ มีประโยชน์ หรือมีเคล็ดลับอะไรที่เอาไปใช้ได้จริง?
- ให้ข้อมูลที่หาได้ยาก หรือเจาะลึกในมุมที่คนอื่นยังไม่พูดถึง
- ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ต้องมีศัพท์เทคนิคเยอะเกินไป ถ้ามีก็อธิบายให้ชัดเจน
- แบ่งย่อหน้าให้สั้นๆ ใช้หัวข้อย่อย หรือ bullet point ช่วยให้อ่านสบายตา
การเขียนที่ดีคือการทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่าย คนอ่านรู้สึกว่าเขาได้อะไรกลับไปจริงๆ ไม่ใช่แค่อ่านแล้วก็ผ่านไป
ใส่ Call to Action ที่ชัดเจน
บทความที่ดีก็ต้องมีเป้าหมายใช่ไหมล่ะ? อย่าลืมใส่ Call to Action (CTA) หรือคำกระตุ้นให้คนอ่านทำอะไรบางอย่างต่อ อาจจะเป็นการชวนให้ไปอ่านบทความอื่นที่เกี่ยวข้องบนเว็บของเรา ชวนให้กดไลก์เพจ หรือชวนให้เข้าไปดูสินค้า/บริการของเราก็ได้ แต่ต้องทำให้เนียนๆ นะ ไม่ใช่ยัดเยียดจนคนอ่านรำคาญ
- ชวนให้ไปอ่านบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง
- แนะนำให้กดติดตามโซเชียลมีเดีย
- เชิญชวนให้ลองใช้สินค้า/บริการ (ถ้าเหมาะสม)
สิ่งที่ควรระวังเมื่อทำ Guest Post
การทำ Guest Post เป็นวิธีที่ดีในการโปรโมทเว็บไซต์ แต่ก็มีบางอย่างที่เราต้องระวังเป็นพิเศษนะ ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นผลเสียแทนได้
อย่าเน้นขายของมากเกินไป
เวลาเราเขียนบทความไปลงเว็บอื่น สิ่งสำคัญคือต้องให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้อ่านของเว็บนั้นๆ ก่อน อย่าคิดว่านี่คือพื้นที่โฆษณาของเรา ถ้าบทความมีแต่การยัดเยียดขายของ หรือลิงก์ไปหาเราเยอะเกินไป คนอ่านจะรู้สึกไม่ดี แถมเจ้าของเว็บก็อาจจะไม่พอใจด้วยนะ ลองคิดดูว่าถ้าเราเป็นคนอ่าน เราจะชอบบทความที่อ่านแล้วรู้สึกเหมือนโดนบังคับซื้อของไหมล่ะ? การให้คุณค่ากับผู้อ่านก่อน จะทำให้คนอยากรู้จักเรามากขึ้นเอง
ตรวจสอบเรื่องลิขสิทธิ์ให้ดี
เวลาจะเอาเนื้อหาอะไรมาใช้ หรือจะอ้างอิงอะไร ต้องแน่ใจว่าเรามีสิทธิ์ใช้จริงๆ นะ ไม่ใช่ไปหยิบรูปภาพ หรือข้อความของคนอื่นมาโดยไม่ขออนุญาต เพราะอาจจะเจอปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ตามมาได้ ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ ควรจะสร้างเนื้อหาขึ้นมาใหม่ หรือไม่ก็หาแหล่งที่อนุญาตให้ใช้ได้ฟรีจะดีกว่า การทำแบบนี้ช่วยให้เราสร้าง ความน่าเชื่อถือ ให้กับตัวเองได้ด้วย
ระวังการทำสแปม
การทำ Guest Post ที่ดีคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเว็บไซต์อื่น แต่ถ้าเราทำแบบสแปม เช่น ส่งอีเมลไปหาเว็บเป็นร้อยๆ เว็บพร้อมกันโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ หรือส่งบทความที่ไม่มีคุณภาพไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่เวิร์คแน่ๆ มันจะทำให้เราดูไม่เป็นมืออาชีพ และอาจจะโดนบล็อกได้เลยนะ
- ส่งบทความที่ตรงกับเนื้อหาของเว็บนั้นๆ
- ปรับแก้บทความให้เข้ากับสไตล์ของเว็บ
- สร้างความสัมพันธ์กับเจ้าของเว็บก่อน
การทำ Guest Post ที่ดีควรเน้นการให้ และการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว ไม่ใช่การหวังผลระยะสั้นแบบทำครั้งเดียวแล้วจบไปนะ
วัดผลความสำเร็จของ Guest Post อย่างไร
พอเราลงบทความ Guest Post ไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำต่อคือการวัดผลนี่แหละครับ จะได้รู้ว่าที่เราลงแรงไปมันคุ้มค่าแค่ไหน หรือต้องปรับปรุงตรงไหนบ้าง ไม่ใช่ลงแล้วปล่อยเลยตามเลยนะ
ติดตามจำนวน Traffic ที่เข้ามา
วิธีแรกที่เห็นผลชัดเจนที่สุดก็คือการดูว่ามีคนคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราจากบทความ Guest Post มากน้อยแค่ไหน ลองใช้ Google Analytics หรือเครื่องมืออื่นๆ ที่เรามีดูครับ เราต้องรู้ว่าบทความนี้ช่วยดึงคนเข้ามาที่เว็บเราได้จริงหรือเปล่า
- ดูแหล่งที่มาของ Traffic: เช็คว่า Traffic ส่วนใหญ่มาจากไหน ถ้ามาจากบทความ Guest Post ที่เราลงไป ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
- จำนวนผู้เข้าชม: ดูตัวเลขผู้เข้าชมทั้งหมดที่มาจากลิงก์ Guest Post
- ระยะเวลาที่ใช้บนหน้าเว็บ: คนที่เข้ามาจาก Guest Post อยู่บนเว็บเรานานแค่ไหน ถ้าอยู่นาน แสดงว่าเนื้อหาเราน่าสนใจ
ดู Engagement บนบทความ
นอกจากการดูจำนวนคนเข้าแล้ว เราต้องดูด้วยว่าคนที่เข้ามาเขาทำอะไรกับบทความของเราบ้าง มีการโต้ตอบหรือเปล่า
- ความคิดเห็น (Comments): มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น หรือตั้งคำถามเกี่ยวกับบทความไหม
- การแชร์ (Shares): บทความถูกแชร์ต่อไปในโซเชียลมีเดียหรือเปล่า
- การกดไลก์/แสดงอารมณ์: คนอ่านรู้สึกอย่างไรกับบทความของเรา
ประเมินผล Backlink ที่ได้
แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของการทำ Guest Post อย่างหนึ่งคือการได้ Backlink คุณภาพกลับมา เราต้องมาดูกันว่าลิงก์ที่เราได้มามันดีจริงไหม
- คุณภาพของเว็บไซต์ที่ลิงก์มา: เว็บไซต์ที่ให้ลิงก์เรามีความน่าเชื่อถือและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราหรือเปล่า
- จำนวน Backlink: ได้ลิงก์มาทั้งหมดกี่อัน
- ตำแหน่งของลิงก์: ลิงก์อยู่ในเนื้อหาหลัก หรือแค่ท้ายบทความ
การวัดผลที่ดีจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมว่ากลยุทธ์ Guest Post ของเราได้ผลจริงไหม และมีส่วนไหนที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในครั้งต่อไปครับ
เครื่องมือช่วยในการทำ Guest Post
การทำ Guest Post ให้ปังเนี่ย มันมีเครื่องมือดีๆ หลายอย่างเลยนะ ที่จะช่วยให้งานของเราง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวเอง ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
เครื่องมือค้นหาเว็บไซต์
การจะหาเว็บไซต์ดีๆ มาลงบทความ Guest Post ได้เนี่ย มันก็ต้องมีตัวช่วยหน่อยเนอะ ไม่งั้นก็หากันตาเหลือกไปเลย เครื่องมือพวกนี้จะช่วยให้เราเจอเว็บที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย แถมยังดูน่าเชื่อถืออีกด้วย
- Google Search: อันนี้เบสิกสุดๆ แต่ก็ยังเวิร์ค ลองใช้คีย์เวิร์ดประมาณว่า "รับเขียนบทความ" "บทความสุขภาพ" "ท่องเที่ยว" แล้วตามด้วยคำว่า "guest post" หรือ "write for us" ดูสิ
- Ahrefs / SEMrush: ถ้ามีงบหน่อย เครื่องมือพวกนี้จะเทพมาก มันช่วยหาเว็บที่มี Traffic เยอะๆ มี Backlink ดีๆ และดูว่าคู่แข่งเราไปลงบทความที่ไหนบ้าง เครื่องมือค้นหาเว็บไซต์ พวกนี้จะทำให้เราเห็นภาพรวมได้ดีเลย
- BuzzSumo: อันนี้เหมาะกับการดูว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังฮิตในวงการที่เราสนใจ แล้วก็อาจจะเจอเว็บที่ชอบแชร์คอนเทนต์แนวๆ นั้นด้วย
เครื่องมือช่วยเขียนและตรวจแกรมม่า
เขียนบทความ Guest Post ให้คนอ่านชอบ แถมยังดูโปรอีก ก็ต้องมีตัวช่วยเรื่องการเขียนนี่แหละ
- ChatGPT / Gemini: พวก AI Chatbot พวกนี้ช่วยได้เยอะมากนะ ตั้งแต่การหาไอเดียหัวข้อ การร่างโครงเรื่อง ไปจนถึงการเขียนเนื้อหาบางส่วน หรือจะให้ช่วยสรุปบทความก็ได้เหมือนกัน
- Grammarly: อันนี้ขาดไม่ได้เลยสำหรับใครที่กังวลเรื่องภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทย (ถ้ามีเวอร์ชันไทยนะ) มันจะช่วยตรวจคำผิด ไวยากรณ์ และแนะนำการใช้คำให้สละสลวยขึ้น การมีบทความที่เขียนดี ไม่มีผิดพลาด จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้เราได้มากเลย
- Hemingway Editor: ถ้าอยากให้บทความอ่านง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เครื่องมือนี้จะช่วยชี้จุดที่ประโยคยาวเกินไป หรือคำที่ยากเกินไป ทำให้เราปรับแก้ให้กระชับและเข้าใจง่ายขึ้น
เครื่องมือวิเคราะห์ Backlink
หลังจากลงบทความไปแล้ว เราก็ต้องมาดูกันว่ามันช่วยอะไรเราบ้าง โดยเฉพาะเรื่อง Backlink ที่ส่งกลับมาที่เว็บเรา
- Google Search Console: อันนี้ฟรีและสำคัญมาก มันจะบอกเราเลยว่ามีลิงก์ไหนบ้างที่ชี้มาที่เว็บเรา แล้วก็ดูได้ว่าลิงก์เหล่านั้นมาจากเว็บไหน
- Ahrefs / SEMrush / Moz: เครื่องมือพวกนี้จะให้ข้อมูล Backlink ที่ละเอียดกว่า Google Search Console อีกเยอะ สามารถดูได้ว่าลิงก์ที่ได้มามีคุณภาพแค่ไหน โดเมนของเว็บที่ลิงก์มามี Authority เท่าไหร่ ช่วยให้เราประเมินผลงานได้ดีขึ้น
การใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างถูกวิธี จะช่วยให้การทำ Guest Post ของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นเยอะเลยล่ะ ลองเอาไปใช้กันดูนะ!
ตัวอย่าง Guest Post ที่ประสบความสำเร็จ
กรณีศึกษาจากแบรนด์ดัง
เคยสงสัยไหมว่าแบรนด์ใหญ่ๆ เขาทำ Guest Post กันยังไง? จริงๆ แล้วมันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิดนะ ลองดูตัวอย่างนี้…
สมมติว่ามีแบรนด์ขายอุปกรณ์กีฬาออนไลน์ เขาอยากจะโปรโมทสินค้าใหม่ แต่ไม่อยากยิงแอดตรงๆ จนคนเบื่อ เลยไปเขียนบทความเกี่ยวกับ "5 ท่าออกกำลังกายที่บ้านง่ายๆ ได้ผลจริง" ลงในเว็บสุขภาพชื่อดังแทน
ในบทความนั้น เขาก็จะแนะนำท่าออกกำลังกาย พร้อมรูปภาพประกอบสวยๆ แล้วก็แทรกเรื่องการเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมเข้าไปแบบเนียนๆ เช่น "ถ้าอยากให้ท่าสควอทได้ผลดีขึ้น ลองใช้ยางยืดออกกำลังกายของเราดูนะ" หรือ "การมีเสื่อโยคะดีๆ สักผืน จะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้สบายขึ้นเยอะเลย"
หัวใจสำคัญคือ เนื้อหาต้องมีประโยชน์กับคนอ่านจริงๆ ไม่ใช่แค่ยัดเยียดขายของอย่างเดียว พอคนอ่านชอบบทความ ก็จะเกิดความสนใจในแบรนด์ และอาจจะคลิกเข้าไปดูสินค้าต่อเอง
บทความที่ได้รับความนิยมสูง
เวลาเราเจออะไรที่น่าสนใจมากๆ เราก็อยากแชร์ต่อใช่ไหม? Guest Post ที่ดีก็เหมือนกัน มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้คนอยากอ่าน อยากแชร์ต่อ ลองดูตัวอย่างนี้…
มีบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวคนหนึ่ง เขาเขียนบทความชื่อ "เที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ฉบับคนงบน้อย แต่ได้รูปสวยเหมือนไปคาเฟ่ดัง" ลงในเว็บท่องเที่ยวเว็บหนึ่ง
ในบทความนั้น เขาไม่ได้แค่บอกว่าไปไหน กินอะไร แต่ลงรายละเอียดแบบจัดเต็ม เช่น:
- แนะนำคาเฟ่ลับๆ ที่คนไม่ค่อยรู้จัก แต่ถ่ายรูปสวยมาก
- บอกวิธีเดินทางไปแต่ละที่แบบประหยัดสุดๆ
- แชร์สูตรทำอาหารเหนือแบบง่ายๆ ที่ลองทำตามได้ที่บ้าน
- แนะนำที่พักราคาดี วิวสวย
บทความนี้ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะให้ข้อมูลที่ ละเอียด และ นำไปใช้ได้จริง คนอ่านรู้สึกเหมือนได้เพื่อนมาแนะนำที่เที่ยวจริงๆ ไม่ใช่แค่บทความโฆษณา พอคนชอบ ก็แชร์ต่อกันเยอะ ทำให้เว็บนั้นมี Traffic เพิ่มขึ้น และบล็อกเกอร์ก็ได้ชื่อเสียงกลับมาด้วย
การทำ Guest Post ที่ดี คือการสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้อ่านอย่างแท้จริง โดยสอดแทรกเรื่องราวหรือสินค้าของเราเข้าไปอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การยัดเยียดขายของตรงๆ
อนาคตของ Guest Post ในยุคดิจิทัล
ยุคดิจิทัลมันหมุนเร็วมากจริงๆ นะครับ อะไรที่เคยฮิตเมื่อก่อน อาจจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แล้ว Guest Post ล่ะ? มันจะยังเวิร์คอยู่ไหมในอนาคต? มาดูกัน
เทรนด์ใหม่ๆ ที่น่าจับตา
Guest Post ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดิมๆ อีกต่อไปนะ ตอนนี้เราเริ่มเห็นเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นเพียบเลย อย่างแรกเลยคือเรื่องของ ความเฉพาะทาง มากขึ้น เว็บไซต์ต่างๆ เริ่มมองหาบทความที่เจาะลึกในหัวข้อที่ตัวเองถนัดจริงๆ ไม่ใช่แค่เขียนอะไรก็ได้ให้มีเนื้อหาเยอะๆ
อีกอย่างที่มาแรงคือการผสมผสาน Guest Post เข้ากับคอนเทนต์รูปแบบอื่น เช่น วิดีโอ อินโฟกราฟิก หรือแม้กระทั่งพอดแคสต์ การทำแบบนี้จะช่วยดึงดูดคนได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้น และทำให้คอนเทนต์ดูน่าสนใจกว่าเดิมเยอะเลย
สุดท้ายคือเรื่องของ AI ที่เข้ามาช่วยเยอะมาก AI สามารถช่วยเราหาไอเดีย ตั้งหัวข้อ หรือแม้กระทั่งร่างบทความเบื้องต้นได้เลยนะ แต่ก็ต้องย้ำว่า AI เป็นแค่เครื่องมือช่วย เรายังต้องใช้สมองและประสบการณ์ของเราในการปรับปรุงให้บทความมีคุณภาพและเป็นธรรมชาติ การเลือกใช้ AI tools for SEO ที่เหมาะสมจะช่วยประหยัดเวลาไปได้มากเลยทีเดียว
Guest Post จะยังคงสำคัญอยู่หรือไม่
ตอบแบบสั้นๆ เลยนะ คือ ‘ยังสำคัญอยู่’ แต่รูปแบบและความคาดหวังอาจจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย
- คุณภาพต้องมาก่อน: ต่อไปนี้ใครที่คิดจะทำ Guest Post แบบขอไปที เนื้อหาห่วยๆ หรือเน้นขายของอย่างเดียว จะอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆ ครับ
- ความสัมพันธ์สำคัญ: การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของเว็บไซต์ที่เราจะไปลงบทความ จะช่วยให้เรามีโอกาสได้ลงบทความดีๆ หรือได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติม
- วัดผลให้ชัดเจน: การทำ Guest Post ต้องมีการวัดผลที่ชัดเจน ว่าเราได้อะไรกลับมาบ้าง ไม่ใช่แค่ลงบทความไปแล้วจบๆ
สรุปง่ายๆ คือ Guest Post ยังเป็นเครื่องมือที่ดีในการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ แต่เราต้องปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ใหม่ๆ และให้ความสำคัญกับคุณภาพและความสัมพันธ์เป็นหลัก ถ้าทำได้แบบนี้ รับรองว่า Guest Post จะยังเป็นประโยชน์กับธุรกิจของคุณไปอีกนานเลยล่ะครับ
บทความ "อนาคตของ Guest Post ในยุคดิจิทัล" ชวนให้คิดว่าการเขียนบทความลงเว็บไซต์อื่นยังน่าสนใจอยู่ไหม? ในยุคที่อะไรๆ ก็ออนไลน์ไปหมด การหาที่ลงบทความดีๆ อาจจะยากขึ้น แต่ก็ยังมีช่องทางให้เราได้แสดงฝีมือและสร้างเครือข่ายนะ! ถ้าอยากรู้ว่าทำยังไงให้งานเขียนของเราโดดเด่นและมีคนเห็นเยอะๆ ลองเข้ามาดูเคล็ดลับดีๆ ที่เว็บไซต์ของเราสิ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!
สรุปส่งท้าย: Guest Post ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด!
เป็นไงกันบ้างครับกับเรื่อง Guest Post ที่เราคุยกันมา หวังว่าคงจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นนะว่ามันคืออะไร ทำไปเพื่ออะไร แล้วจะเริ่มทำยังไงดี จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือยากเกินไปเลยนะ แค่เราเข้าใจหลักการนิดหน่อย แล้วก็ลงมือทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งเองแหละ ลองเอาเทคนิคที่บอกไปปรับใช้ดูนะ ไม่ว่าจะเป็นการหาเว็บที่ใช่ การเขียนเนื้อหาดีๆ หรือการสร้างความสัมพันธ์กับเจ้าของเว็บ ถ้าทำได้ตามนี้ รับรองว่า Guest Post จะกลายเป็นเครื่องมือช่วยโปรโมทเว็บของเราได้ดีมากๆ เลยล่ะ สู้ๆ นะทุกคน!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Guest Post คืออะไรกันแน่?
Guest Post ก็เหมือนกับการที่เราเขียนบทความไปลงในเว็บไซต์ของคนอื่นน่ะครับ เพื่อให้คนอื่นได้อ่านงานเขียนของเรา แล้วก็อาจจะได้รู้จักเราหรือธุรกิจของเรามากขึ้น
ทำไมต้องเขียน Guest Post ด้วย?
มันดีมากๆ เลยนะ เพราะช่วยให้คนรู้จักเว็บไซต์ของเรามากขึ้น ทำให้คนเข้ามาดูเว็บเราเยอะขึ้น แล้วก็ยังช่วยให้คนเชื่อมั่นในตัวเราหรือธุรกิจของเรามากขึ้นด้วย
เขียน Guest Post แล้วจะได้อะไรกลับมา?
หลักๆ เลยคือ คนจะเข้ามาดูเว็บเราเยอะขึ้น เหมือนมีคนมาเดินห้างเรามากขึ้นไงครับ แล้วก็ยังได้ลิงก์กลับมาที่เว็บเราด้วย ซึ่งช่วยให้เว็บเราดูดีในสายตา Google มากขึ้น
หาเว็บไซต์ที่จะไปลง Guest Post ได้ที่ไหนบ้าง?
ลองหาเว็บที่มีเรื่องคล้ายๆ กับเว็บเราดูสิครับ หรือเว็บที่คนอ่านน่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าของเรา แล้วก็ลองดูว่าเว็บนั้นเขาเปิดรับบทความจากคนนอกหรือเปล่า
ต้องเขียน Guest Post ยังไงให้น่าอ่าน?
ต้องเลือกเรื่องที่คนอยากอ่านก่อนเลย แล้วก็เขียนให้เข้าใจง่ายๆ มีประโยชน์กับคนอ่านจริงๆ อย่าลืมใส่ลิงก์กลับมาที่เว็บเราด้วยนะ แต่ไม่ต้องเยอะเกินไป
มีอะไรที่ห้ามทำเวลาเขียน Guest Post ไหม?
อย่าพยายามขายของอย่างเดียวจนเกินไปนะ เขาจะมองว่าเราไม่จริงใจ แล้วก็ต้องระวังเรื่องการเอาของคนอื่นมาใช้โดยไม่ขออนุญาตด้วยล่ะ เดี๋ยวจะมีปัญหา
จะรู้ได้ไงว่า Guest Post ที่ทำไปมันได้ผล?
ก็ลองดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บเราจากบทความนั้นเยอะแค่ไหน มีคนคอมเมนต์หรือแชร์บทความนั้นเยอะหรือเปล่า แล้วลิงก์ที่เราได้มามันช่วยให้เว็บเราดีขึ้นไหม
อนาคตของ Guest Post จะเป็นยังไงต่อไป?
ถึงแม้จะมีวิธีใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะแยะ แต่ Guest Post ก็ยังเป็นวิธีที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์กับเว็บอื่น และทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นนะ คิดว่ามันยังสำคัญอยู่แน่นอน