Social Bookmarking เพื่อเพิ่ม SEO: กลยุทธ์เด็ดที่นักการตลาดออนไลน์ต้องรู้

เครือข่ายไอคอนโซเชียลมีเดียเชื่อมต่อกัน

ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันสูงแบบนี้ การทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้นๆ ในหน้าผลการค้นหาของ Google เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ๆ เลยค่ะ หนึ่งในวิธีที่นักการตลาดออนไลน์หลายคนใช้กันคือ Social Bookmarking เพื่อเพิ่ม SEO แต่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่ ทำไมถึงช่วยเรื่อง SEO ได้ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเรื่องนี้กันแบบง่ายๆ พร้อมเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นขึ้นมาได้ค่ะ

Key Takeaways

  • Social Bookmarking คือการที่เรานำลิงก์เนื้อหาของเราไปเก็บไว้ในเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เหมือนสมุดบันทึกออนไลน์ เพื่อให้คนอื่นเข้ามาเจอและคลิกเข้าไปอ่านได้ง่ายขึ้น ซึ่งมันช่วยเรื่อง SEO เพราะเหมือนมีคนแนะนำเว็บเราให้ Google รู้จัก.
  • การเลือกแพลตฟอร์ม Social Bookmarking ที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราเป็นสิ่งสำคัญ จะช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากขึ้น.
  • การสร้างโปรไฟล์ให้น่าสนใจ ใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้อง และใช้รูปภาพกับคำอธิบายที่ดึงดูด จะช่วยให้คนอยากคลิกเข้ามาดูเนื้อหาของเรา.
  • การปักหมุดเนื้อหาที่ดี ต้องเลือกเนื้อหาที่คนสนใจ เขียนชื่อเรื่องและคำอธิบายให้น่าคลิก และใส่รูปภาพหรือวิดีโอประกอบ.
  • การทำ Social Bookmarking ที่ดีจะช่วยสร้าง Backlink คุณภาพให้กับเว็บไซต์ ซึ่ง Google ชอบมาก และยังช่วยเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นด้วย.

Social Bookmarking คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับ SEO

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Social Bookmarking มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ SEO ที่เราๆ ทำกันอยู่ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันแบบง่ายๆ นะครับ

ไขข้อข้องใจ Social Bookmarking คืออะไรกันแน่

Social Bookmarking ก็เหมือนกับการที่เราเก็บลิงก์เว็บไซต์ที่น่าสนใจไว้ในที่ๆ เดียวกันนั่นแหละครับ แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือ มันเป็นการเก็บแบบสาธารณะ ทำให้คนอื่นเข้ามาดู เข้ามาแชร์ หรือแม้แต่เข้ามาเซฟลิงก์ของเราต่อได้ด้วย ลองนึกภาพสมุดคั่นหน้าออนไลน์ที่ทุกคนช่วยกันเติมเนื้อหาน่าสนใจเข้าไปเรื่อยๆ มันก็ประมาณนั้นเลยครับ แพลตฟอร์มยอดฮิตที่หลายคนคุ้นเคยก็อย่างเช่น Pinterest, Digg หรือแม้แต่ Reddit ก็มีส่วนของการบุ๊กมาร์กอยู่เหมือนกัน การที่เราเอาเนื้อหาของเราไปปักหมุดไว้บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ ก็เหมือนกับการเอาป้ายไปติดประกาศให้คนเห็นได้ง่ายขึ้น

ประโยชน์ที่มองข้ามไม่ได้ของ Social Bookmarking ต่ออันดับเว็บไซต์

หลายคนอาจจะคิดว่าแค่เอาลิงก์ไปแปะๆ ไว้มันจะช่วยอะไรได้ แต่จริงๆ แล้วมันมีประโยชน์มากกว่าที่คิดเยอะเลยนะ อย่างแรกเลยคือมันช่วยเพิ่ม การมองเห็น ให้กับเว็บไซต์ของเรา ทำให้มีโอกาสที่คนจะคลิกเข้ามาเจอเนื้อหาของเรามากขึ้น ซึ่งถ้าเนื้อหาเราดีจริง คนก็จะแชร์ต่อ หรือบุ๊กมาร์กเก็บไว้เอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลดีต่อ SEO โดยตรงเลยครับ นอกจากนี้ การที่เรามีลิงก์จาก Social Bookmarking ไปยังเว็บไซต์ของเรา ก็เหมือนกับการที่เราได้ Backlink คุณภาพดีๆ มาเพิ่มอีกด้วยนะ ยิ่งมีลิงก์เยอะและมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ อันดับใน Google ก็มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นตามไปด้วย

ทำไม Google ถึงรัก Social Bookmarking

Google ชอบอะไรที่มันดูเป็นธรรมชาติและมาจากผู้ใช้งานจริงๆ ครับ การที่เราเอาเนื้อหาไปแชร์บน Social Bookmarking แล้วมีคนเข้ามาดู มาคลิก มาแชร์ต่อ มันแสดงให้เห็นว่าเนื้อหานั้นมีประโยชน์และเป็นที่ต้องการของคนจำนวนมาก ซึ่ง Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพและน่าเชื่อถือ เลยจัดอันดับให้สูงขึ้นตามไปด้วย ลองคิดดูว่าถ้ามีคนเอาลิงก์เว็บไซต์ของคุณไปปักหมุดไว้ใน แพลตฟอร์มยอดนิยม ที่มีคนใช้งานเยอะๆ มันก็เหมือนกับการมีคนช่วยแนะนำเว็บของคุณให้คนอื่นรู้จักนั่นแหละครับ ยิ่งมีคนแนะนำเยอะ Google ก็ยิ่งชอบ

ข้อควรจำที่สำคัญคือ การทำ Social Bookmarking ไม่ใช่แค่การเอาลิงก์ไปแปะๆ แล้วจบ แต่มันคือการสร้างปฏิสัมพันธ์กับชุมชนออนไลน์ด้วย การเลือกเนื้อหาที่น่าสนใจ การเขียนคำอธิบายให้น่าคลิก และการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้งานคนอื่นๆ จะช่วยให้การทำ Social Bookmarking ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ

เลือกแพลตฟอร์ม Social Bookmarking ให้ปัง

การเลือกแพลตฟอร์ม Social Bookmarking ที่ใช่เป็นเรื่องสำคัญมากนะ เพราะแต่ละที่มีกลุ่มผู้ใช้และลักษณะเนื้อหาที่แตกต่างกันไป ถ้าเลือกผิด ชีวิตอาจจะยากขึ้นไปอีก

สำรวจแพลตฟอร์มยอดนิยมที่คนใช้กันเยอะ

ตอนนี้มีแพลตฟอร์ม Social Bookmarking เจ๋งๆ อยู่หลายที่เลย ลองมาดูกันว่ามีที่ไหนบ้างที่คนนิยมใช้กัน:

  • Pinterest: อันนี้ฮิตสุดๆ ไปเลย โดยเฉพาะสายรูปภาพ คอนเทนต์แนวไลฟ์สไตล์ ความงาม แฟชั่น หรืออาหาร ปักหมุดกันรัวๆ
  • Flipboard: เหมือนนิตยสารส่วนตัวเลย เราสามารถเลือกหัวข้อที่สนใจ แล้ว Flipboard จะรวบรวมบทความมาให้เราอ่านได้ง่ายๆ
  • Reddit: เป็นเหมือนเว็บบอร์ดขนาดใหญ่ มีห้องย่อย (subreddit) เยอะมาก ครอบคลุมทุกเรื่องที่เราอยากรู้ ถ้าเนื้อหาเราเกี่ยวกับเรื่องเฉพาะทางมากๆ ที่นี่อาจจะเหมาะ
  • Pocket: เน้นเก็บบทความหรือลิงก์ที่น่าสนใจไว้กลับมาอ่านทีหลัง เหมาะกับคนที่มีบทความดีๆ อยากแชร์ให้คนอื่นมาเก็บไว้
  • Diigo: อันนี้จะมีความเป็นวิชาการหน่อยๆ คนที่ชอบทำวิจัย หรือแชร์ข้อมูลเชิงลึกมักจะใช้กัน

ดูว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณ

ก่อนจะไปปักหมุดมั่วๆ เราต้องมาดูกันก่อนว่าธุรกิจของเราเหมาะกับแพลตฟอร์มไหนมากที่สุด ลองถามตัวเองดูนะ:

  • กลุ่มเป้าหมายเราอยู่ที่ไหน? ถ้าลูกค้าเราชอบดูรูปสวยๆ Pinterest คือคำตอบ แต่ถ้าเป็นสายเทคโนโลยี หรือข่าวสาร Reddit อาจจะเวิร์คกว่า
  • เนื้อหาเราเป็นแบบไหน? ถ้าเน้นรูปภาพสวยๆ หรืออินโฟกราฟิก ก็ไปทาง Pinterest หรือ Flipboard ถ้าเป็นบทความยาวๆ หรือข่าวสาร ก็อาจจะเหมาะกับ Reddit หรือ Pocket
  • เราต้องการสร้าง Backlink แบบไหน? บางแพลตฟอร์มให้ลิงก์ที่ติดตามได้ (dofollow) ซึ่งดีต่อ SEO มากกว่า แต่บางแพลตฟอร์มก็ให้ลิงก์แบบไม่ติดตาม (nofollow) ต้องดูให้ดี

เทคนิคการเลือกแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่ม Traffic

การเลือกแพลตฟอร์มให้ถูกจุด จะช่วยดึงคนเข้าเว็บเราได้เยอะเลยนะ ลองดูเทคนิคพวกนี้:

  • ดูว่าคู่แข่งเขาใช้ที่ไหนกัน: ลองส่องดูว่าเว็บที่ทำธุรกิจคล้ายๆ เรา เขาไปปักหมุดที่ไหนกันบ้าง แล้วเราก็ไปบ้าง อาจจะได้ไอเดียดีๆ
  • ทดลองหลายๆ ที่: อย่าเพิ่งยึดติดที่เดียว ลองเอาเนื้อหาไปลงหลายๆ แพลตฟอร์ม แล้วดูว่าที่ไหนได้ Traffic เข้ามาเยอะที่สุด
  • เน้นแพลตฟอร์มที่มีคนใช้งานจริง: แพลตฟอร์มที่มีคนเข้ามาใช้งานเยอะๆ มีโอกาสที่คนจะเห็นเนื้อหาเรามากขึ้นแน่นอน
การเลือกแพลตฟอร์ม Social Bookmarking ที่เหมาะสมเปรียบเสมือนการเลือกช่องทางกระจายข่าวสารที่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด ยิ่งเลือกดี โอกาสที่คนจะคลิกเข้ามาอ่านเนื้อหาของเราก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

สร้างโปรไฟล์ Social Bookmarking ให้โดดเด่น

การเชื่อมต่อเครือข่ายออนไลน์และกลยุทธ์ดิจิทัล

การสร้างโปรไฟล์ Social Bookmarking ให้ปังเนี่ย ไม่ใช่แค่การใส่ข้อมูลไปเฉยๆ นะ แต่มันคือการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์หรือตัวเราเองเลยแหละ คิดง่ายๆ ว่าถ้ามีคนเข้ามาเห็นโปรไฟล์เราแล้วรู้สึกน่าเชื่อถือ เขาก็มีโอกาสที่จะคลิกเข้าไปดูเนื้อหาของเรามากขึ้นจริงไหม

องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้โปรไฟล์น่าสนใจ

โปรไฟล์ที่ดีควรจะมีอะไรบ้างล่ะ? ลองดูลิสต์นี้เลย:

  • รูปโปรไฟล์: เลือกใช้รูปที่ชัดเจน เป็นมืออาชีพ หรือเป็นโลโก้แบรนด์ก็ได้ ถ้าเป็นรูปเราเองก็ขอให้เห็นหน้าชัดๆ ยิ้มแย้มหน่อยก็ดีนะ
  • คำอธิบาย (Bio): ตรงนี้สำคัญมาก! เขียนให้กระชับ เข้าใจง่าย บอกว่าเราทำอะไร มีความเชี่ยวชาญด้านไหน หรือมีอะไรน่าสนใจที่อยากจะแชร์ ใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือสิ่งที่เราทำลงไปด้วย จะช่วยให้คนหาเราเจอได้ง่ายขึ้น
  • ลิงก์เว็บไซต์: อย่าลืมใส่ลิงก์เว็บไซต์หลักของเรา หรือลิงก์ไปยังหน้าสำคัญอื่นๆ ที่เราอยากโปรโมท
  • ข้อมูลติดต่อ: ถ้าสะดวกก็ใส่ช่องทางการติดต่ออื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น อีเมล หรือลิงก์โซเชียลมีเดียอื่นๆ

ใส่ Keyword อย่างไรให้ถูกจุด

การใส่ Keyword ในโปรไฟล์ Social Bookmarking ก็เหมือนกับการติดป้ายบอกทางให้คนหาเราเจอได้ง่ายขึ้นนะ เวลาเขียนคำอธิบายโปรไฟล์ ลองนึกดูว่าถ้าเราเป็นคนอื่น เราจะใช้คำว่าอะไรในการค้นหาบริการหรือข้อมูลแบบที่เรามี

  • คิดถึงคำที่ลูกค้าใช้: ลองนึกว่ากลุ่มเป้าหมายของเราเขาจะใช้คำไหนในการค้นหา
  • ใช้คำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ: ใส่ชื่อสินค้า บริการ หรือประเภทธุรกิจของเราเข้าไปตรงๆ
  • อย่าใส่เยอะเกินไป: การยัด Keyword ถี่ๆ จนอ่านไม่รู้เรื่อง อาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติและส่งผลเสียมากกว่าผลดีนะ

รูปโปรไฟล์และคำอธิบายที่ดึงดูด

อย่างที่บอกไป รูปโปรไฟล์กับคำอธิบายคือด่านแรกที่จะสร้างความประทับใจ ลองนึกภาพว่าเรากำลังเลือกดูสินค้าออนไลน์ ถ้าเห็นรูปไม่สวย หรือคำอธิบายยืดเยื้อ เราก็คงเลื่อนผ่านไปเลยใช่ไหมล่ะ

การลงทุนเวลาเล็กน้อยในการปรับปรุงรูปโปรไฟล์และเขียนคำอธิบายให้น่าสนใจ จะช่วยดึงดูดผู้เข้าชมให้คลิกเข้ามาดูเนื้อหาของเราได้มากขึ้นเยอะเลยนะ

ลองดูตัวอย่างการเขียน Bio สั้นๆ ที่เน้น Keyword และบอกประโยชน์ได้เลย เช่น "รับทำเว็บไซต์ SEO โดยผู้เชี่ยวชาญ ช่วยเพิ่มอันดับ เครื่องมือ SEO ให้ธุรกิจคุณ" แบบนี้ก็ชัดเจนดี หรือถ้าเป็นบล็อกเกอร์ ก็อาจจะเขียนว่า "แบ่งปันเทคนิคการตลาดออนไลน์และรีวิว Gadget ล่าสุด อัปเดตทุกสัปดาห์" อะไรประมาณนี้ การมีโปรไฟล์ที่ดูดีและให้ข้อมูลครบถ้วน จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้คนอยากติดตามเรามากขึ้นจริงๆ

เทคนิคการปักหมุดเนื้อหาให้คนเห็นเยอะๆ

การจะทำให้เนื้อหาของเราไปเข้าตาคนเยอะๆ บนแพลตฟอร์ม Social Bookmarking เนี่ย มันก็มีเทคนิคอยู่เหมือนกันนะ ไม่ใช่แค่เอาลิงก์ไปแปะๆ แล้วจบ

เลือกเนื้อหาประเภทไหนที่เหมาะกับการปักหมุด

จริงๆ แล้วเนื้อหาเกือบทุกประเภทก็เอาไปปักหมุดได้หมดแหละ แต่ถ้าจะให้ดี ควรเลือกเนื้อหาที่มันมีคุณค่า มีประโยชน์ หรือน่าสนใจจริงๆ เช่น:

  • บทความเชิงลึก (In-depth articles): ที่ให้ข้อมูลครบถ้วน ตอบคำถามที่คนสงสัยได้
  • คู่มือหรือ How-to: ที่สอนวิธีทำอะไรบางอย่างแบบละเอียด
  • Infographics: ที่ย่อยข้อมูลยากๆ ให้เข้าใจง่ายด้วยภาพ
  • วิดีโอสอน: ที่เห็นภาพชัดเจน ทำตามได้ง่าย
  • ข่าวสารหรืออัปเดตที่น่าสนใจ: ในวงการของคุณ

หัวใจสำคัญคือ เนื้อหาต้องตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของเราจริงๆ ไม่งั้นต่อให้ปักหมุดไปก็ไม่มีใครอยากคลิกหรอกนะ

เขียน Title และ Description ให้คลิก

ส่วนนี้สำคัญมาก เพราะมันคือสิ่งแรกที่คนจะเห็นก่อนจะตัดสินใจคลิกเข้าไปอ่านของเราเลยนะ ลองนึกภาพว่าเรากำลังไถฟีดอยู่ แล้วเจออะไรที่มันดึงดูดสายตา เราถึงจะหยุดดูใช่ไหมล่ะ

  • Title: ต้องสั้น กระชับ ชัดเจน บอกเลยว่าเนื้อหานี้เกี่ยวกับอะไร และที่สำคัญ ต้องใส่ Keyword หลักของเราลงไปด้วย อาจจะลองใช้คำที่กระตุ้นความอยากรู้ หรือบอกประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น "5 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้…"
  • Description: ขยายความจาก Title เพิ่มรายละเอียดเล็กน้อย แต่ไม่ต้องสปอยล์ทั้งหมดนะ ใส่ Keyword รอง หรือคำที่เกี่ยวข้องเข้าไปด้วยก็ได้ เพื่อให้คนเข้าใจมากขึ้นว่าเนื้อหาข้างในมีอะไรน่าสนใจบ้าง ลองเขียนให้เหมือนเรากำลังเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง จะได้ดูเป็นธรรมชาติ
การเขียน Title และ Description ที่ดี มันเหมือนกับการเขียนพาดหัวข่าวให้น่าสนใจนั่นแหละ ยิ่งดึงดูดเท่าไหร่ คนก็ยิ่งอยากคลิกเข้ามาดูมากขึ้นเท่านั้น

ใช้รูปภาพหรือวิดีโอประกอบให้น่าสนใจ

คนเราชอบอะไรที่มันเห็นภาพง่ายๆ ใช่ไหมล่ะ การมีรูปภาพหรือวิดีโอสวยๆ หรือน่าสนใจมาประกอบ จะช่วยดึงดูดสายตาได้เยอะเลยนะ ลองเลือกรูปที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาจริงๆ หรือถ้าเป็นวิดีโอ ก็ควรจะสั้นๆ กระชับ ได้ใจความ

บางแพลตฟอร์มอาจจะให้เราเลือกรูป Thumbnail เองได้ อันนี้ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษเลย เพราะมันคือหน้าตาของเนื้อหาเราเลยนะ ถ้าเลือกรูปที่สวยงามและสื่อความหมายได้ดี โอกาสที่คนจะคลิกเข้ามาก็มีสูงขึ้นเยอะเลย ลองดู เทคนิคการเลือกรูปภาพ ที่จะช่วยให้เนื้อหาของคุณดูดีขึ้นได้

การสร้าง Backlink คุณภาพจาก Social Bookmarking

หลายคนอาจจะยังสับสนว่า Social Bookmarking มันช่วยเรื่อง Backlink ได้ยังไงกันแน่ จริงๆ แล้วมันก็เหมือนกับการที่เราไปฝากเนื้อฝากตัวกับเว็บอื่นๆ แล้วให้เขาช่วยแนะนำเรานั่นแหละครับ ยิ่งเราไปฝากเนื้อฝากตัวกับเว็บที่น่าเชื่อถือและมีคนเข้าเยอะๆ โอกาสที่คนจะคลิกเข้ามาหาเราก็ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย

เข้าใจความแตกต่างของ Link จาก Social Bookmarking

ต้องบอกก่อนว่าลิงก์ที่ได้จาก Social Bookmarking ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ NoFollow นะครับ ซึ่งหมายความว่ามันอาจจะไม่ได้ส่งค่า SEO โดยตรงเหมือนลิงก์แบบ DoFollow ที่ได้จากเว็บอื่นๆ แต่ก็อย่าเพิ่งมองข้ามมันไป เพราะลิงก์พวกนี้มีประโยชน์ในแง่ของการเพิ่ม Traffic และการทำให้คนรู้จักแบรนด์เรามากขึ้น ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็ส่งผลดีต่อ SEO ทางอ้อมได้เหมือนกัน

วิธีสร้าง Link ที่ Google ชอบ

การจะสร้างลิงก์จาก Social Bookmarking ให้ Google รักเนี่ย มันมีเทคนิคอยู่เหมือนกันนะ ไม่ใช่แค่เอาลิงก์ไปแปะๆ แล้วจบ

  • เลือกแพลตฟอร์มที่ใช่: ลองดูว่าแพลตฟอร์มไหนที่คนในวงการหรือกลุ่มเป้าหมายของเรานิยมใช้กันเยอะๆ
  • สร้างโปรไฟล์ให้น่าสนใจ: ใส่ข้อมูลให้ครบถ้วน รูปโปรไฟล์สวยๆ คำอธิบายที่ดึงดูด จะช่วยให้คนอยากคลิกเข้ามาดู
  • ปักหมุดเนื้อหาที่มีคุณภาพ: เลือกเนื้อหาที่เรามั่นใจว่ามีประโยชน์จริงๆ แล้วเขียน Title กับ Description ให้น่าคลิก
  • มีส่วนร่วมกับชุมชน: อย่าแค่ไปแปะลิงก์อย่างเดียว ลองเข้าไปกดไลก์ กดแชร์ หรือคอมเมนต์เนื้อหาของคนอื่นบ้าง จะได้ดูไม่เหมือนบอท
การสร้าง Backlink ที่ดี ไม่ใช่แค่การหาลิงก์เยอะๆ แต่ต้องเน้นที่คุณภาพและความเกี่ยวข้องด้วยนะ

ข้อควรระวังในการสร้าง Link ที่อาจส่งผลเสีย

ถึงแม้ Social Bookmarking จะมีประโยชน์ แต่ก็มีบางอย่างที่เราต้องระวังเป็นพิเศษ ไม่งั้นอาจจะส่งผลเสียต่อเว็บของเราได้เลยนะ

  • อย่าปักหมุดเนื้อหาซ้ำๆ: การเอาลิงก์เดิมๆ ไปแปะหลายๆ ครั้งในหลายๆ ที่ อาจจะโดนมองว่าเป็นสแปมได้
  • อย่าใช้บอทช่วย: การใช้โปรแกรมอัตโนมัติในการสร้างลิงก์ หรือการสร้างบัญชีปลอมขึ้นมาเยอะๆ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
  • อย่าซื้อลิงก์: การซื้อขายลิงก์เป็นวิธีที่ผิดกฎของ Google และอาจทำให้เว็บโดนลงโทษได้

จำไว้ว่าเป้าหมายหลักคือการสร้างการรับรู้และดึงดูดผู้คนจริงๆ ไม่ใช่แค่การปั่นอันดับ SEO อย่างเดียว การทำแบบนี้จะช่วยให้เราได้ ลิงก์คุณภาพ ที่ยั่งยืนกว่าครับ

วัดผลลัพธ์ Social Bookmarking อย่างไรให้เห็นชัด

เครือข่ายไอคอนโซเชียลมีเดียเชื่อมต่อกัน

หลังจากที่เราทุ่มเทเวลาไปกับการปักหมุดเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม Social Bookmarking ต่างๆ แล้ว สิ่งสำคัญต่อไปที่เราต้องทำก็คือการวัดผลลัพธ์ว่ากลยุทธ์นี้มันเวิร์คจริงไหม หรือแค่ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์ การวัดผลนี่แหละที่จะบอกเราได้ว่าควรปรับปรุงตรงไหน หรือควรจะไปโฟกัสที่แพลตฟอร์มไหนเป็นพิเศษ

เครื่องมือช่วยวัดผลที่ต้องมี

ก่อนอื่นเลย เราต้องมีเครื่องมือดีๆ ติดตัวไว้ก่อน ไม่งั้นก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เครื่องมือพวกนี้จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้นเยอะเลยนะ

  • Google Analytics: อันนี้ขาดไม่ได้เลย เพราะมันจะบอกเราได้ว่ามีคนคลิกเข้ามาจากช่องทางไหนบ้าง รวมถึง Social Bookmarking ด้วย
  • Google Search Console: ช่วยให้เรารู้ว่าคีย์เวิร์ดที่เราใช้มันติดอันดับดีขึ้นไหม หรือมีหน้าไหนที่คนเข้ามาดูเยอะเป็นพิเศษ
  • เครื่องมือวิเคราะห์ของแต่ละแพลตฟอร์ม: บางแพลตฟอร์มก็มีเครื่องมือของตัวเองที่บอกสถิติการเข้าชม หรือการแชร์ได้นะ ลองเข้าไปดูกัน
  • เครื่องมือติดตามอันดับ (Rank Tracker): ถ้าอยากรู้ว่าอันดับคีย์เวิร์ดของเรามันขยับไปแค่ไหนหลังทำ Social Bookmarking ก็ต้องมีตัวนี้เลย

ดู Traffic ที่เข้ามาจาก Social Bookmarking

พอมีเครื่องมือแล้ว เราก็มาดูกันว่ามีคนคลิกเข้ามาจาก Social Bookmarking มากน้อยแค่ไหนใน Google Analytics เนี่ย ให้เราไปดูที่ Acquisition > All Traffic > Channels แล้วมองหาแหล่งที่มาจาก Social Network หรือถ้าอยากเจาะจงกว่านั้น ก็ไปที่ Acquisition > Social > Overview ได้เลย

เราจะเห็นข้อมูลว่ามี Traffic เข้ามาเท่าไหร่ มี Bounce Rate เป็นยังไง หรือใช้เวลาบนเว็บนานแค่ไหน ข้อมูลพวกนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าคนจาก Social Bookmarking ที่เข้ามาเนี่ย มีคุณภาพหรือเปล่า

วิเคราะห์อันดับ Keyword ที่ดีขึ้น

อันนี้เป็นผลลัพธ์ที่หลายคนอยากเห็น คือการที่คีย์เวิร์ดของเรามันอันดับดีขึ้นบน Google ใช่ไหมล่ะ เราสามารถใช้ Google Search Console หรือเครื่องมือ Rank Tracker ต่างๆ มาช่วยดูได้เลย ลองเปรียบเทียบอันดับก่อนและหลังที่เราเริ่มทำ Social Bookmarking ดูนะ ถ้าอันดับมันดีขึ้น แสดงว่ากลยุทธ์นี้ได้ผลแน่นอน

การติดตามผลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการเปลี่ยนแปลง และสามารถปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ทำไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าผลเป็นยังไง

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการทำ Social Bookmarking

การทำ Social Bookmarking ให้ได้ผลดีนั้น ไม่ใช่แค่การเอาลิงก์ไปแปะๆ แล้วจบนะ แต่มันมีจุดที่พลาดกันได้ง่ายๆ เลยล่ะ ถ้าไม่ระวัง อาจจะส่งผลเสียต่อเว็บเรามากกว่าดีก็ได้นะ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรเลี่ยง

การปักหมุดเนื้อหาซ้ำๆ หรือสแปม

อันนี้เจอบ่อยมาก คือการเอาลิงก์เดิมๆ ไปโพสต์ซ้ำๆ ในหลายๆ แพลตฟอร์ม หรือโพสต์ถี่เกินไปจนน่ารำคาญ พวก Search Engine อย่าง Google เขามองว่าเรากำลังพยายามปั่นอันดับ หรือไม่ก็สแปมนะ ซึ่งมันจะทำให้คะแนนความน่าเชื่อถือของเราลดลงไปเลย แถมบางทีอาจจะโดนแบนจากแพลตฟอร์มนั้นๆ ด้วยซ้ำ

  • อย่าโพสต์ลิงก์เดิมซ้ำๆ บ่อยเกินไป
  • ปรับเปลี่ยนคำอธิบายหรือชื่อเรื่องบ้าง
  • เว้นระยะห่างในการโพสต์แต่ละครั้ง

การใช้บัญชีปลอมหรือบอท

บางคนอาจจะคิดว่าการสร้างบัญชีปลอมเยอะๆ แล้วเอาไปปักหมุดลิงก์เยอะๆ จะช่วยให้เว็บเราดังเร็วขึ้น แต่จริงๆ แล้วมันสวนทางกันเลยนะ พวกบอทหรือบัญชีปลอมพวกนี้มันดูออกง่ายมาก และ Google ก็ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย มันจะมองว่าเราไม่จริงใจ และอาจจะส่งผลเสียต่ออันดับในระยะยาวได้ แถมยังเสียเวลาเปล่าๆ ด้วยนะ

การสร้างลิงก์ที่ดูเป็นธรรมชาติและมาจากผู้ใช้งานจริง จะมีน้ำหนักและส่งผลดีต่อ SEO มากกว่าการใช้เทคนิคที่ดูเหมือนโกง

การละเลยการมีส่วนร่วมกับชุมชน

Social Bookmarking ไม่ใช่แค่ที่สำหรับแปะลิงก์อย่างเดียวนะ แต่มันคือชุมชนออนไลน์ที่เราควรเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย การเข้าไปกดไลก์ กดแชร์ หรือคอมเมนต์เนื้อหาของคนอื่นบ้าง จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และทำให้โปรไฟล์ของเราดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ถ้าเราเอาแต่โพสต์ลิงก์ตัวเองอย่างเดียว โดยไม่สนใจคนอื่นเลย ก็เหมือนเราไปงานปาร์ตี้แล้วยืนคุยอยู่คนเดียวอะแหละ ไม่มีใครอยากคุยด้วยหรอก

  • เข้าไปกดไลก์และคอมเมนต์โพสต์ของคนอื่นบ้าง
  • ตอบกลับความคิดเห็นที่คนอื่นมีต่อโพสต์ของเรา
  • เข้าร่วมกลุ่มหรือฟอรั่มที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรา

การทำแบบนี้จะช่วยให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ๆ และอาจจะได้ไอเดียในการทำเนื้อหาดีๆ มาต่อยอดได้อีกด้วยนะ ลองนึกภาพว่าถ้ามีคนเข้ามาคอมเมนต์เนื้อหาของเรา แล้วเราตอบกลับอย่างดี มันก็สร้างความประทับใจได้นะ การสร้าง Web 2.0 backlinks ก็คล้ายๆ กัน คือต้องมีความสม่ำเสมอและมีคุณภาพ

Social Bookmarking กับการสร้าง Brand Awareness

ไอคอนโซเชียลมีเดียเชื่อมต่อกัน

นอกจากการช่วยเรื่อง SEO แล้ว Social Bookmarking ยังเป็นเครื่องมือชั้นดีที่ช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกด้วยนะ ลองนึกภาพว่ามีคนจำนวนมากเห็นเนื้อหาของคุณผ่านการปักหมุดบนแพลตฟอร์มต่างๆ มันเหมือนกับการที่เราไปแนะนำตัวกับคนเยอะๆ ในงานอีเวนต์เลยล่ะ

เพิ่มการมองเห็นแบรนด์ของคุณให้มากขึ้น

เวลาที่เราปักหมุดเนื้อหาดีๆ ลงใน Social Bookmarking ที่คนนิยมใช้เยอะๆ มันก็เหมือนกับการที่เราเอาโบรชัวร์ไปวางไว้ในที่ที่คนเดินผ่านเยอะๆ นั่นแหละ ยิ่งมีคนเห็นเนื้อหาของเรามากเท่าไหร่ โอกาสที่คนจะรู้จักแบรนด์เราก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ลองคิดดูว่าถ้ามีคนกดเข้าไปดูเนื้อหาของเราเยอะๆ จากหลายๆ แหล่ง มันก็ช่วยให้คนจำชื่อแบรนด์เราได้ง่ายขึ้นนะ การทำแบบนี้ช่วยเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ของคุณให้มากขึ้นจริงๆ

สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

เมื่อเนื้อหาของคุณถูกปักหมุดและแชร์ต่อๆ กันไปในหลายๆ แพลตฟอร์ม มันจะสร้างภาพลักษณ์ว่าเนื้อหาของคุณมีประโยชน์และน่าสนใจในสายตาคนอื่นๆ ซึ่งส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจคุณโดยตรงเลยนะ ยิ่งมีคนเข้ามามีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการยืนยันว่าแบรนด์ของคุณมีตัวตนและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง การมีคนช่วยกันปักหมุดเนื้อหาของเราก็เหมือนมีคนมาช่วยการันตีคุณภาพให้เราเลย

เชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายที่สนใจ

Social Bookmarking ช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกับเนื้อหาของเราได้ง่ายขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่จะปักหมุดหรือค้นหาเนื้อหาที่พวกเขาสนใจจริงๆ การที่เราเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มเหล่านี้ก็เหมือนกับการที่เราไปอยู่ในงานสัมมนาที่รวมคนคอเดียวกันไว้เยอะๆ เราสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาได้โดยตรงเลยนะ การทำแบบนี้ช่วยให้เราได้เจอและพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายที่ใช่จริงๆ

  • เลือกแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่: ลองสำรวจดูว่ากลุ่มลูกค้าของคุณชอบใช้แพลตฟอร์มไหนในการค้นหาข้อมูล
  • สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและน่าสนใจ: เนื้อหาที่ดีจะดึงดูดให้คนอยากปักหมุดและแชร์ต่อ
  • มีส่วนร่วมกับชุมชน: ตอบคอมเมนต์ พูดคุยกับคนอื่นๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
การทำ Social Bookmarking ไม่ใช่แค่การส่งลิงก์ไปเรื่อยๆ แต่มันคือการสร้างเครือข่ายและทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนที่ใช่จริงๆ

กลยุทธ์ขั้นสูง: ผสาน Social Bookmarking กับ SEO อื่นๆ

หลายคนอาจมองว่า Social Bookmarking เป็นแค่เครื่องมือเสริม แต่จริงๆ แล้วมันทรงพลังมากถ้าเรารู้จักเอาไปผสมผสานกับกลยุทธ์ SEO อื่นๆ ที่เราทำอยู่แล้วนะ มันไม่ใช่แค่การปักหมุดแล้วจบ แต่มันคือการสร้างระบบนิเวศที่ช่วยดันเว็บไซต์ของเราให้ไปได้ไกลกว่าเดิมอีกเยอะเลย

เชื่อมโยง Social Bookmarking กับ Content Marketing

การทำ Content Marketing ที่ดีมันต้องมีคนเห็นใช่ไหมล่ะ? Social Bookmarking นี่แหละคือตัวช่วยชั้นดีเลย เวลาเราสร้างคอนเทนต์ดีๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความ อินโฟกราฟิก หรือวิดีโอ ลองเอาไปแชร์ตามแพลตฟอร์ม Social Bookmarking ดูสิ มันจะช่วยกระจายคอนเทนต์ของเราไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่อาจจะยังไม่รู้จักเรามาก่อน แถมยังได้ backlink กลับมาด้วยนะ ยิ่งคอนเทนต์เรามีคุณภาพมากเท่าไหร่ คนก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะแชร์ต่อและปักหมุดมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งมันส่งผลดีต่อ SEO แบบสุดๆ ไปเลย

ใช้ Social Bookmarking เสริม On-Page SEO

On-Page SEO คือการปรับแต่งเว็บไซต์ของเราให้ติดอันดับดีๆ ใช่ไหม? Social Bookmarking ช่วยเสริมตรงนี้ได้นะ เวลาเราปักหมุดคอนเทนต์ของเรา อย่าลืมใส่ Keyword ที่เราต้องการจะดันเข้าไปใน Title และ Description ด้วยล่ะ ทำแบบนี้บ่อยๆ มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้ Google รู้ว่าคอนเทนต์ของเราเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ นะ และเมื่อมีคนเข้ามาคลิกเข้ามาอ่านเยอะๆ จาก Social Bookmarking มันก็ยิ่งเป็นการยืนยันคุณภาพของคอนเทนต์เราในสายตา Google อีกด้วย

การทำ Off-Page SEO ที่ต้องมี Social Bookmarking

Off-Page SEO คือการสร้างความน่าเชื่อถือและอำนาจให้กับเว็บไซต์ของเราจากภายนอก ซึ่ง Social Bookmarking ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากๆ ในการทำ Off-Page SEO เลยนะ การที่เรามีโปรไฟล์ที่น่าเชื่อถือบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ และมีการปักหมุดคอนเทนต์ที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ มันจะช่วยสร้าง Backlink ที่มีคุณภาพให้กับเว็บไซต์ของเรา ซึ่ง Google มองว่า Backlink เหล่านี้เป็นเหมือนการโหวตให้กับเว็บไซต์ของเรา ยิ่งมีคนโหวตเยอะ เว็บไซต์ของเราก็ยิ่งมีอำนาจและมีโอกาสติดอันดับสูงขึ้นเท่านั้นเอง

การผสมผสาน Social Bookmarking เข้ากับกลยุทธ์ SEO อื่นๆ ไม่ใช่แค่การทำตามๆ กันไป แต่มันคือการสร้างความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่ง ทำให้ทุกการกระทำของเราส่งผลดีต่ออันดับเว็บไซต์ในระยะยาวจริงๆ

อยากให้เว็บติดอันดับดีๆ ไหม? ลองเอาวิธีรวม Social Bookmarking กับเทคนิค SEO อื่นๆ มาใช้ดูสิ มันจะช่วยให้คนรู้จักเว็บเรามากขึ้นเยอะเลยนะ! ถ้าอยากรู้เคล็ดลับเจ๋งๆ ที่จะทำให้เว็บของคุณโดดเด่นกว่าใคร ลองเข้ามาดูที่ Uneed Digital สิ เรามีเครื่องมือดีๆ ที่จะช่วยให้การทำ SEO ของคุณง่ายขึ้นเยอะเลย!

สรุปแล้ว Social Bookmarking มันดีจริงเหรอ?

ก็เป็นไงกันบ้างกับเรื่อง Social Bookmarking ที่เราคุยกันไป หวังว่าคงจะเห็นภาพกันมากขึ้นนะว่ามันช่วยเรื่อง SEO ได้ยังไงบ้าง คือมันก็ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะทำให้เว็บเราปังทันทีทันใดหรอกนะ แต่มันก็เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่นักการตลาดออนไลน์อย่างเราๆ ควรมีติดตัวไว้ ลองเอาไปปรับใช้ดู ไม่เสียหายอะไร แถมอาจจะเห็นผลดีๆ ก็ได้ ใครจะรู้! ที่สำคัญคือต้องทำอย่างสม่ำเสมอและเลือกใช้ให้ถูกที่ถูกทางด้วยนะจ๊ะ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Social Bookmarking เพื่อ SEO

Social Bookmarking คืออะไรกันแน่?

Social Bookmarking ก็เหมือนกับการที่เราเก็บลิงก์เว็บที่เราชอบไว้ในที่เดียว แล้วก็แชร์ให้คนอื่นเห็นได้ด้วย เหมือนเราทำสมุดรวมเว็บโปรดของเราเองนั่นแหละ

ทำไมการทำ Social Bookmarking ถึงช่วยให้เว็บเราติดอันดับดีขึ้น?

เวลาเราเอาลิงก์เว็บเราไปปักหมุดในเว็บ Social Bookmarking เยอะๆ มันเหมือนมีคนไปบอก Google ว่าเว็บเราน่าสนใจนะ ทำให้ Google มองว่าเว็บเรามีคุณภาพและมีคนพูดถึงเยอะ เลยดันให้เว็บเราขึ้นไปอยู่หน้าแรกๆ ไง

เราควรเลือกเว็บ Social Bookmarking เว็บไหนดี?

ต้องดูว่าเว็บไหนคนใช้เยอะๆ แล้วก็เหมาะกับเรื่องที่เราทำด้วย ลองหาข้อมูลดูว่าเว็บไหนคนชอบแชร์เรื่องราวคล้ายๆ กับของเรา จะได้มีคนเห็นเยอะๆ

ต้องทำโปรไฟล์ให้ดูดีแค่ไหน?

ต้องใส่รูปโปรไฟล์สวยๆ แล้วก็เขียนบอกว่าเราเป็นใคร ทำอะไร ให้คนอื่นอยากรู้จัก แล้วก็อย่าลืมใส่คำที่คนชอบค้นหา (Keyword) ลงไปด้วยนะ

จะปักหมุดเนื้อหายังไงให้คนคลิกเยอะๆ?

เลือกเนื้อหาที่คนอยากรู้จริงๆ แล้วก็ตั้งชื่อลิงก์ให้น่าสนใจ ชวนให้คนอยากคลิกเข้ามาอ่าน พร้อมกับใส่รูปสวยๆ หรือวิดีโอสั้นๆ ประกอบ จะยิ่งดึงดูดคนได้มากเลย

การสร้างลิงก์จาก Social Bookmarking มันดีจริงเหรอ?

ดีมากๆ เลยนะ ถ้าเราสร้างลิงก์ที่ถูกต้องและมีคุณภาพ มันจะช่วยให้ Google เชื่อถือเว็บเรามากขึ้น แต่ถ้าทำผิดวิธี อาจจะส่งผลเสียได้เหมือนกัน

เราจะรู้ได้ไงว่า Social Bookmarking มันช่วยเว็บเราจริงๆ?

เราต้องคอยดูสถิติว่ามีคนคลิกเข้ามาจากเว็บ Social Bookmarking เยอะแค่ไหน แล้วก็ดูว่าอันดับของคำที่เราอยากให้คนค้นหา มันดีขึ้นหรือเปล่า

มีอะไรที่ห้ามทำเด็ดขาดเวลาทำ Social Bookmarking?

ห้ามเอาลิงก์ไปแปะๆ มั่วๆ หรือทำซ้ำๆ เยอะเกินไปนะ เดี๋ยวจะโดนหาว่าเป็นสแปม แล้วก็อย่าใช้โปรแกรมช่วยปักหมุดเองด้วย ต้องทำด้วยตัวเองจริงๆ

ลดทุกคำสั่งซื้อครั้งแรก

สามารถใช้ได้กับบริการที่มีราคา 1000 บาท

%10
ลด 10%กับการสั่งซื้อครั้งแรก
Code: UNEED25
1 ก.พ 68 - 15 ธ.ค 68

By subscribing you agree with our Terms & Conditions and Privacy Policy.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
error: Content is protected !!
Shopping Cart (0)

No products in the cart. No products in the cart.


Shop by Category See All